1. แยกประเภทตลาด

การแยกประเภทตลาดว่าตอนนี้เป็นขาขึ้นหรือขาลงเป็นเรื่องง่าย สำหรับผู้ที่ชอบใช้งาน MA หากราคาตกอยู่เหนือ MA ให้ทำการซื้อต่อไป หากราคาตกอยู่ใต้ MA ให้ทำการขาย; โดยปกติแล้วฉันจะใช้ fractals สี่จุดในการกำหนดทิศทาง การใช้ตัวชี้วัดอื่นก็ได้ แต่สำคัญคือต้องง่ายและสะดวกในการใช้งาน

2. การรวมตัวและแนวโน้ม

ฉันใช้จุดสูงต่ำของ fractals ในการแยกแยะเพื่อกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินการ การดำเนินการในช่วงรวมตัวและแนวโน้มแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

3. ระดับเวลา

กำหนดระดับเวลาสำหรับการดำเนินการ โดยทั่วไปจะวิเคราะห์สามระดับ แต่ไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียดเกินไป ตามที่แต่ละบุคคลคุ้นเคย แต่ควรกำหนดระดับเวลาในรูปแบบที่เป็นทวีคูณเพื่อให้สะดวกต่อการวิเคราะห์ด้วย fractals หลายระดับ

4. การตั้งจุดตัดขาดทุน

ตั้งจุดตัดขาดทุนตาม fractals และกำหนดขนาดของตำแหน่งตามจุดตัดขาดทุน สิ่งสำคัญคือให้ชัดเจนว่าในครั้งนี้คุณสามารถขาดทุนสูงสุดได้เท่าไร มิฉะนั้นก็อาจจะไม่สามารถถือการซื้อขายได้

5. จุดเข้าซื้อ

เลือกจุดเข้าซื้อในระดับเล็ก วิธีการคล้าย 'สามชั้นกรอง' คือ ขาขึ้นใหญ่--ขาลงกลาง--ขาขึ้นเล็ก

6. การเพิ่มและลดตำแหน่ง

เมื่อราคาตามที่คาดการณ์ สามารถลดตำแหน่งที่จุด fractals ก่อนหน้าได้; หากมีการรีทราสการสนับสนุนของ fractals ก็ให้เพิ่มตำแหน่ง สิ่งสำคัญคืออย่าให้ความหนาแน่นสูงเกินไป อย่างน้อยควรมีการลากคลื่นการซื้อขายหนึ่งครั้งก่อนเพิ่มตำแหน่ง นอกจากนี้การตั้งจุดตัดขาดทุนในการเพิ่มตำแหน่งไม่ควรกระทบตำแหน่งทั้งหมด เพราะเงื่อนไขที่เหมือนกันแต่ตำแหน่งที่แตกต่างกันอาจมีความแตกต่างอย่างมาก

7. การรอ

เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้ว สิ่งที่เหลือแค่รออย่างมีความอดทน แนวโน้มมักจะยาวนานกว่าความอดทนของเรา

8. การออกจากตลาด

หากตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ ให้หยุดการขาดทุนทันที และมองหาโอกาสถัดไป!