เรื่องราวเริ่มต้น

รถคันหนึ่งเข้าไปยังปั๊มน้ำมัน เยาวชนคนหนึ่งซึ่งมีผมยาวและแต่งกายดูแปลกตาได้เดินเข้ามาหารถ เจ้าของรถขอให้เขาเติมน้ำมันเต็มถัง เยาวชนคนนี้พูดถึงค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันได้อย่างแม่นยำ เจ้าของรถรู้สึกว่าเขามีความสามารถในด้านคณิตศาสตร์ ดังนั้นจึงเสนอให้เขาทำงาน นี่เกิดขึ้นเมื่อ 26 ปีที่แล้ว เจ้าของรถคือนักลงทุนผู้มีชื่อเสียงในลอนดอน ส่วนเยาวชนที่ปั๊มน้ำมันนั่นชื่อ มาร์ติน เบอร์ตัน เมื่อได้รับโอกาสนี้ มาร์ติน เบอร์ตันก็เริ่มเข้าสู่วงการการเงินและค่อยๆ แสดงความสามารถในด้านนี้ออกมา ในวัย 21 ปี เขาได้เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน เริ่มทำการค้าผลิตภัณฑ์ทางการเงิน; เมื่ออายุ 22 ปี เขาเข้าร่วม บริษัท คอนดิแนทเวสต์เพื่อทำการค้าผลิตภัณฑ์ทางการเงินล่วงหน้า; ต่อมา เขาได้เข้าร่วมธนาคารซิตี้กรุ๊ปในสหรัฐอเมริกา ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปนานสี่ปี ปัจจุบัน เขาเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัท Monument Derivatives ซึ่งมีธุรกิจหลากหลายรวมถึงการค้าทางการตลาด, การซื้อขายมืออาชีพ, การเป็นนายหน้าผลิตภัณฑ์ทางการเงิน, การบริหารจัดการเงิน, การวิเคราะห์ทางเทคนิคและการศึกษาเชิงปริมาณในด้านการลงทุนทางการเงิน

ความสำเร็จในการเทรด

เมื่อสรุปความสำเร็จในการเทรดของเขา มาร์ติน เบอร์ตันกล่าวว่า “ในระยะเวลา 26 ปีในการเทรด ผมไม่เคยคิดว่ามันเป็นการแข่งขันฟุตบอล 90 นาทีที่จะต้องชนะทันที สิ่งที่ผมสนใจคือความสำเร็จในระยะยาว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลกำไรจากกองทุนขนาดเล็กที่ผมมีส่วนร่วมมากกว่า 50% ในแต่ละปี สำหรับผมถ้าปีไหนไม่มีกำไรก็ไม่เป็นไร แต่เคยมีการขาดทุนใหญ่หรือไม่? ผมไม่เคยมีการขาดทุนใหญ่ตลอดทั้งปี นี่เป็นลักษณะการควบคุมตนเอง แน่นอนว่ามันจะจำกัดความสามารถในการทำกำไร แต่ก็เป็นความเชื่อของผมเองในการเทรดตามสไตล์ของตน นั่นคือความมั่นคงอันดับแรก”

เข้าใจบุคลิกของตนเอง

มาร์ติน เบอร์ตันเชื่อว่าในการลงทุนในตลาดการเงิน คุณต้องเข้าใจบุคลิกของตนเอง รู้จักจุดแข็งและจุดอ่อนของตนเองและแนวโน้มการเทรด เพื่อเลือกวิธีการที่เหมาะสมกับตัวเองให้สามารถสร้างพื้นฐานสำหรับความสำเร็จ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีบุคลิกที่รีบเร่ง คุณไม่ควรทำการเทรดระยะยาว การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานก็ไม่ควรเป็นเรื่องที่คุณสนใจ ควรให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค และสร้างรูปแบบการดำเนินการที่มุ่งเน้นไปที่การเทรดระยะสั้น แต่ถ้าคุณมีบุคลิกที่ช้าและไม่ชอบการเทรดบ่อยๆ คุณอาจจะต้องศึกษาการเคลื่อนไหวของพื้นฐานทางเศรษฐกิจมากขึ้น หาแนวโน้มระยะยาวและทำการเทรดในระยะยาวตามนั้น

ความสำคัญของการเตรียมตัว

ในกระบวนการดำเนินงาน มาร์ติน เบอร์ตันเชื่อว่ากุญแจสำคัญของความสำเร็จคือการเตรียมตัวและวางแผนล่วงหน้า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการทำกำไรจะต้องทำการศึกษาอย่างละเอียดก่อนที่จะเข้าสู่การเทรด คุณต้องรู้จักผลิตภัณฑ์ที่คุณจะเทรดให้มากที่สุด วางแผนการดำเนินงาน คำนึงถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมด และรวมถึงการตอบสนองในแผนการเทรด หากแม้แผนปัจจุบันไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่อย่างน้อยจะสามารถค้นหาปัญหาจากการมีแผน ทั้งนี้ ขอให้ปรับแผนต่อไปอย่างสม่ำเสมอ และจะประสบความสำเร็จมากขึ้น เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในตลาด ความโลภหรือความกลัวที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในจิตใจนั้นเป็นจุดอ่อนที่มนุษย์มี จึงทำให้เกิดการขาดทุน สาเหตุหลักไม่ใช่เพราะแผนไม่ดี แต่เป็นจุดอ่อนของมนุษย์ ดังนั้นเขาก็เชื่อว่าหากทำตามแผน แม้ว่าจะขาดทุนก็ถือเป็นความสำเร็จ สำหรับเขา ความสำเร็จนั้นวัดจาก “การทำตามแผน” ไม่ใช่แค่ดูว่าทำเงินได้ในทันที

มุมมองต่อการขาดทุน

เกี่ยวกับการสูญเสีย มาร์ติน เบอร์ตันกล่าวว่า “การสูญเสียไม่ใช่ความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง มันเป็นเพียงผลกระทบชั่วคราวในกระบวนการ นอกจากนี้ ผมพบว่าการสูญเสียทำให้ผมได้เรียนรู้ เพราะถ้าครั้งนี้คุณขาดทุน 500 ปอนด์ ในครั้งถัดไปคุณจะรับการขาดทุน 450 ปอนด์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีอุปสรรคทางจิตใจ คุณจะสามารถวางแผนตัดสินใจในสถานการณ์ที่ดีกว่าได้ คุณต้องรู้ว่าการยอมรับการขาดทุนจริงๆ แล้วไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่คุณคิด

บทวิจารณ์และข้อคิด

แนวคิดในการลงทุนคือการมองหาผลตอบแทนในระยะยาวที่นำมาจากการลงทุนให้กับนักลงทุน และไม่เพียงแต่สนใจผลกำไรเล็กน้อยในปัจจุบัน เราหมายถึงว่าตลาดไม่สามารถถูกควบคุมได้อย่างแม่นยำ คุณสามารถวิเคราะห์แนวโน้มใหญ่ของมันได้ แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าที่ไหนจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เฉพาะเจาะจง เราจึงย้ำยืนถึงความสำคัญของการทำตามแนวโน้มหลังจากเลือกตลาด และการบริหารจัดการเงินที่เข้มงวดตามแผนเพื่อควบคุมความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดให้อยู่ในขอบเขตที่สามารถรับมือได้ การเปลี่ยนแปลงของตลาดคล้ายกับการเปลี่ยนฤดูกาล ต้องทนผ่านฤดูหนาวที่เลวร้ายไปก่อนจึงจะเห็นฤดูใบไม้ผลิที่มาถึง