การจับจังหวะซื้อขายในตลาดที่มีความผันผวน
ผู้เขียน:   2024-11-14   คลิ:2

การเข้าใจความผันผวน

ในตลาดหุ้น ความผันผวนสามารถทำให้การกระจายราคาสูงขึ้น ส่งผลให้มีกลยุทธ์มากขึ้นสำหรับนักลงทุน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะจัดการกับมันอย่างไร ผู้เขียนมีประสบการณ์ทั้งในการประสบความสำเร็จและความล้มเหลวในหลาย ๆ ครั้งในตลาดหุ้น ดังนั้นจึงมีประสบการณ์บางอย่างเกี่ยวกับการจับจังหวะความผันผวนที่อยากจะแบ่งปันกับนักลงทุนทั่วไปรายละเอียดมีดังนี้ การจับจังหวะซื้อขายในตลาดที่มีความผันผวน

1. ประเภทของความผันผวน

ความผันผวนในตลาดสามารถแบ่งออกเป็นความผันผวนที่ระดับต่ำ ระดับกลาง และระดับสูง รวมถึงความผันผวนในช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง นักลงทุนควรต้องมีวิธีการจัดการความผันผวนในระดับที่แตกต่างกันออกไปอย่างเหมาะสม หากไม่สามารถแยกแยะได้อย่างถูกต้อง อาจส่งผลให้เกิดข้อผิดพลาดในการดำเนินการและอาจเคลื่อนที่ไปสู่การสูญเสียที่ใหญ่หลวง

2. วิธีการจัดการในความผันผวนระดับต่ำ

ความผันผวนระดับต่ำหมายถึงราคาหุ้นได้ลดลงต่อเนื่องด้วยความสูงอย่างมากและใช้เวลานานในการลดลง ช่วงคลื่นโดยเฉลี่ยจะต้องลดลงระหว่าง 3-5 คลื่น ปริมาณการซื้อขายจะอยู่ในสภาวะลดลงอย่างรุนแรง โดยที่ราคาเฉลี่ยสูงสุดและต่ำสุดเกือบเท่ากัน ในระยะนี้ หากพบว่าหุ้นใดมีความผันผวนที่เพิ่มขึ้น นักลงทุนควรให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากเมื่อเริ่มเห็นว่าตลาดมีการกระทำหมายถึงโอกาสในการสร้างฐานในการลงทุนที่ดี

3. ความผันผวนระดับกลาง

เมื่อราคาหุ้นมีการขึ้นในระหว่างหนึ่งกลุ่ม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการทำกำไรในระยะสั้นจึงมีการดึงกลับเกิดขึ้น สิ่งนี้จึงง่ายต่อการทำให้เกิดความผันผวน ในช่วงนี้เป็นโอกาสเปลี่ยนจากการขายหุ้นที่มีราคาพุ่งสูงสู่อันดับที่ยังมีโอกาสจะขึ้น

4. วิธีการจัดการในความผันผวนระดับสูง

ความผันผวนระดับสูงหมายถึงราคาหุ้นที่มีการขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงระยะสุดท้าย นี่คือช่วงเวลาที่ความเสี่ยงสูง มีโอกาสในการสร้างผลกำไรที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการซื้อขายในตลาด A ต้องมีการพิจารณาในประเด็นต่อไปนี้:

  1. ใช้ตัวชี้วัดแท่งเทียน เช่น แท่งเทียนรายวันและรายชั่วโมง
  2. ในระหว่างการขาย คำนวณราคาสูงสุดที่จะไปถึง โดยต้องตั้งราคาโดยต่ำกว่าระดับที่คาดการณ์ไว้
  3. ในการซื้อ ควรตรวจสอบว่าการปรับตัวเกิดขึ้นหรือไม่ และพิจารณาระดับย้อนกลับที่สำคัญ เช่น 0.382, 0.618
  4. ต้องใส่ใจในเส้นสนับสนุนและความดันการขาย รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการซื้อขาย
  5. การเบี่ยงเบนเป็นตัวชี้วัดที่มีประโยชน์ในตลาดที่มีความผันผวน
  6. ตั้งจุดหยุดขาดทุนเมื่อมีการผิดพลาดในการดำเนินการ

5. ความผันผวนในระหว่างการขึ้น

เรามักจะพบว่าหุ้นบางตัวจะมีการเคลื่อนไหวในช่องทางการขึ้นที่มีหลักการ หากพบสิ่งนี้แล้วควรจะทำการกำหนดช่องทางการขึ้นของหุ้นนี้เมื่อราคาหุ้นถึงระดับความดันด้านบนของช่องทางการจับจังหวะซื้อขายในตลาดที่มีความผันผวน

6. ความผันผวนในช่องทางขาลง

ในขณะที่ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในช่องทางที่ลดลง โดยทั่วไปนักลงทุนควรหลีกเลี่ยงการดำเนินการ แต่สำหรับผู้ที่ชอบการซื้อขายในระยะสั้น อาจมองหาความผันผวนที่เกิดขึ้นเพื่อทำการซื้อขายในรูปแบบราคาที่เหมาะสม โดยเฉพาะถ้ารับรู้ถึงจุดหลัก ๆ เช่น:

  1. เปิดปิดการซื้อขายอย่างรวดเร็ว ไม่เกิน 3 วัน
  2. ในการเข้าซื้อว่าในระยะที่ราคาหุ้นต่ำเกินไป ให้ขายเมื่อเกิดความดัน
  3. ซื้อเมื่อถึงขอบล่างของช่องทางขาลง
  4. ควรซื้อเมื่อมีการเบี่ยงเบนต่ำเกินไป
  5. กำหนดเป้าหมายของการทำกำไรไม่ให้สูงเกินไป และใช้กฎของการทำกำไรแล้วจึงออก
  6. เลือกหุ้นขนาดกลางหรือเล็กที่มีความผันผวนสูง เนื่องจากหุ้นขนาดใหญ่มีความผันผวนต่ำจึงทำราคาได้ยาก

บทสรุป

โดยรวมแล้วการทำกำไรในตลาดที่มีความผันผวนเป็นเรื่องที่ยาก แต่ผู้ลงทุนที่ดีจะเกิดจากการปฏิบัติในการลงทุน



ความคิดเห็นของผู้ใช้

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

เปิดบัญชีกับ
โบรกเกอร์ Dupoin

สมัครสมาชิกกับเรา ผ่านโบรกเกอร์ Dupoin

**สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด สำหรับสมาชิกเท่านั้น!!

เกี่ยวกับเรา

ติดต่อเรา

เรื่องที่น่ารู้

Crescentcollege คือเว็บไซต์ที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทุกความเคลื่อนไหวในตลาดเหล่านี้

เราไม่สนับสนุนการชักชวนให้เทรดหรือการระดมทุนในทุกรูปแบบ เรามุ่งมั่นเป็นเพียงสื่อกลางในการแบ่งปันความรู้ที่เป็นประโยชน์เท่านั้น

**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกประเภทมีความเสี่ยง นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรควรทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนก่อนการซื้อขาย**

ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ Crescentcollege สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์

ติดต่อทางอีเมล: [email protected]

ติดต่อเพิ่มเติมทาง Line:

blog

© 2024 Crescentcollege. สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามทำซ้ำ คัดลอก หรือเผยแพร่ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

เรานำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง โดยไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำการลงทุน