การรักษาระยะห่างความปลอดภัย

ผู้ที่ขับขี่ยวดยานรู้ดีว่าควรรักษาระยะห่างความปลอดภัย โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ทางด่วน ระยะห่างความปลอดภัยเป็นมาตรการสำคัญที่รับประกันการเดินทางอย่างปลอดภัย มิฉะนั้นอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจากการเบรกไม่ทันได้ ซึ่งการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราใช้การซื้อขายแบบมาร์จิ้น การใช้เลเวอเรจทำให้เงินทุนมีสถานะการกำไรหรือขาดทุนอยู่ใน “ระดับสูง” ทันทีที่นักลงทุนเข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา ก็เหมือนกับการขับขี่บนถนน การปฏิบัติตามกฎและรักษาระยะห่างความปลอดภัยเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ผู้ค้าไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จ

ปฏิบัติตามกฎพื้นฐาน

ทำอะไรก็ต้องปฏิบัติตามกฎบางประการ เมื่อขับรถบนถนน เราต้องสอบใบขับขี่ และต้องปฏิบัติตามกฎจราจร การขับขี่เร็วเกินไปหรือบรรทุกน้ำหนักเกินก็เป็นอันตราย การประมาทอาจทำให้ถูกปรับได้ เนื่องจากการลงทุนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราไม่ต้องสอบใบขับขี่ ทำให้มีนักลงทุนมือสมัครเล่นจำนวนมากเข้าร่วม นักลงทุนเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับกฎการซื้อขาย จึงมีหลายคนที่ต้องผิดหวังและออกจากตลาดไป ระยะห่างความปลอดภัยจึงเป็นองค์ประกอบหนึ่งของกฎการซื้อขาย ผู้ลงทุนเพียงแค่รักษาระยะห่างความปลอดภัยที่เหมาะสม จะช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จได้มากขึ้น

ทำความเข้าใจกับระยะห่างความปลอดภัย

ระยะห่างความปลอดภัยนั้นสำคัญเพียงใด? ระยะห่างความปลอดภัยในการขับรถนั้นเป็นแนวคิดทางภูมิศาสตร์ ขณะที่ระยะห่างความปลอดภัยในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรามีความหมายอย่างน้อยสองประการ หนึ่งคือ “ระยะห่าง” ระหว่างนักเทรดกับตลาด ซึ่งหมายถึงความถี่ในการซื้อขาย สองคือ ระยะห่างในการรับความเสี่ยงในการซื้อขาย การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราไม่ควรเกินจำกัด หากเกินเกณฑ์ จะคล้ายกับการขับรถบรรทุกเกินน้ำหนัก การควบคุมตัวเองจะลดลง ความกดดันในการซื้อขายจะทำให้เราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น เวลาที่สำคัญมาก เรามักไม่สามารถตอบสนองได้ถูกต้อง

วิธีการรักษาระยะห่างความปลอดภัย

ระยะห่างเท่าไรถึงจะถือว่าระยะห่างความปลอดภัยในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา? ในการซื้อขายจริง นักลงทุนควรกำหนดและยึดมั่นในเงื่อนไขการเข้าสู่ตลาดที่มีระยะห่างความปลอดภัยในระดับที่เหมาะสม ก่อนอื่น การเข้าซื้อขายควรมีแผนการที่ทำให้ไปถึงระยะห่างความปลอดภัยที่กำหนด (อัตรากำไร/ความเสี่ยง × อัตราสำเร็จ) ในเวลาอื่น ให้อยู่ในสถานะรอดูเพื่อตัดสินใจ ลดการซื้อขายที่ไม่เหมาะสม การค้าอย่างปลอดภัยย่อมเพิ่มขึ้น อัตรากำไรคือกำไรที่คาดหวัง/จำนวนความเสี่ยง จริงๆ แล้ว อัตราสำเร็จสามารถกำหนดได้จากสัดส่วนการทำกำไรในสิบการดำเนินงานล่าสุด (จำนวนครั้งทำกำไร/จำนวนครั้งขาดทุน) ตามทฤษฎีแนวโน้ม สมมุตินักเทรดกำลังอยู่ในสถานะการทำกำไรทั่วไปที่มักจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะมีจุดกลับตัวที่ชัดเจน พวกเราจึงสามารถพิจารณาว่าจะเข้าสู่ทิศทางการขาดทุนที่ต่อเนื่องหรือไม่ เมื่ออัตราสำเร็จอยู่ในระดับที่สูงและมีแนวโน้มการเพิ่มขึ้น ระยะห่างความปลอดภัยของเราก็จะสูงขึ้นด้วย ในทางกลับกันก็เหมือนกัน

ตัวอย่างของระยะห่างความปลอดภัย

ตัวอย่างเช่น นักลงทุนรายหนึ่งได้ผ่านการวิเคราะห์และพบว่าความคาดหวังกำไรจากแผนของเขาคือ 300,000 บาท และการควบคุมความเสี่ยงของเขาที่ตั้งไว้คือ 120,000 บาท ความคาดหวังกำไร/ความเสี่ยง คือ 300,000/120,000 = 2.5 (ตามแนวคิดก่อนหน้านี้ ค่านี้ไม่ถึงสามเท่า จึงไม่เหมาะสมในการดำเนินการ) และนักลงทุนรายนี้มีการดำเนินการล่าสุด 10 ครั้ง ทำกำไร 6 ครั้ง ขาดทุน 3 และรักษาทุน 1 ครั้ง อัตราสำเร็จ (อัตราความสำเร็จที่คาดหวัง) คือ 6/3 = 2 (ในปกติ นักลงทุนที่มีกำไรมากกว่าขาดทุนจะมีจิตวิญญาณที่ดีและการประเมินตลาดมีเสถียรภาพ) สุดท้าย ผลคูณของอัตรากำไร 2.5 × อัตราความสำเร็จที่คาดหวัง 2 = 5 ซึ่งหมายถึงค่าความปลอดภัยตามแผน ในกรณีทั่วไป หากค่านี้สูงกว่า 3 จะถือว่าเป็นระยะห่างความปลอดภัยในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรา

การจัดการความเสี่ยงในการลงทุน

การบริหารเป็นสิ่งสำคัญในการลงทุน เพื่อที่จะลดความเสี่ยงให้เหมาะสมยิ่งขึ้น การจัดการความเสี่ยงนั้นไม่มีข้อยกเว้นเราสามารถประเมินการลงทุนของเราให้อยู่ในขอบเขตที่น้อยที่สุดระหว่างการลงทุน หากเรายึดหลักการจัดการเงินให้ดี โดยทั่วไปจะขอแนะนำให้ในแต่ละแผนลงทุนการใช้เงินสูงสุดไม่เกิน 20% ของเงินทุนในบัญชี ในเวลาเดียวกันแผนหลายแผนที่ใช้งานรวมกันไม่เกิน 40% ของเงินทุนในบัญชี

การรักษาความปลอดภัยในระดับที่ตัวเองตั้งไว้

วิธีการที่ยืดหยุ่นคือการนำข้อมูลเหล่านี้ไปคูณกับอัตราความสำเร็จที่คาดหวัง นั่นคือระยะห่างความปลอดภัยในการซื้อขาย (ค่าสำหรับการบริหารจัดการเงินที่ปลอดภัย) เช่น นักลงทุนที่มีอัตราความสำเร็จที่คาดหวังเป็น 1.5 หมายความว่าการจำกัดเงินทุนที่จัดการได้สามารถปรับขึ้นได้เป็น 1.5 เท่า แต่ไม่ว่าจะปรับมากเพียงใด หลักการที่เข้มงวดในการบริหารจัดการเงินก็ต้องปฏิบัติตาม โดยเฉพาะการใช้งานคือ การใช้เงินสูงสุดของแผนในการลงทุนไม่เกิน 40% ของทุนบัญชี และในหลายแผนรวมกันสูงสุดไม่เกิน 80%

การควบคุมความเสี่ยงในระยะห่าง

ในด้านการควบคุมความเสี่ยง สมควรให้ความสำคัญในระดับของการที่ยืดหยุ่นอย่างเหมาะสม และเสนอการจำกัดความสูญเสียที่ใหญ่ที่สุดในแผนกบัญชีรวมกันไม่ให้เกิน 20% ของเงินทุนหลัก ในขณะที่แผนเดียวจำกัดความเสี่ยงในการขาดทุนสูงสุดไม่เกิน 5% ของเงินทุนหลัก ข้อมูลในวิธีที่ยืดหยุ่นสามารถทำการปรับตามค่านี้ได้เมื่อนำไปคำนวณกับอัตราความสำเร็จที่คาดหวังได้

สรุป

เมื่อเราขับรถบนทางด่วน เรามักจะมีสำนึกในการปฏิบัติตามกฎจราจรและรักษาระยะห่างความปลอดภัย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยในชีวิต ในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรา เนื่องจากไม่สามารถสัมผัสได้ถึงการคุกคามต่อชีวิต ทำให้ผู้ค้าหลายคนมองข้ามกฎการค้าและระยะห่างความปลอดภัย ส่งผลกระทบต่อการอยู่รอดในระยะยาวและการพัฒนาในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา

ข้อสรุป

การซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราเปรียบเสมือนการขับรถ การปฏิบัติตามกฎคือพื้นฐานสำคัญสู่ความสำเร็จ และการรักษา “ระยะห่างความปลอดภัย” คือเครื่องมือสำคัญที่นำเราสู่ความสำเร็จ