เลเวอเรจในการเทรดหมายถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นหรือไม่?

ไม่ใช่ เพราะเลเวอเรจเป็นเพียงเครื่องมือและไม่สามารถเพิ่มผลกำไรได้ แต่สามารถลดอุปสรรคในการเทรดได้ สำหรับผู้ที่มีการจัดการเงินที่เข้มงวด เลเวอเรจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไรและระดับความสามารถในการรับความเสี่ยง ดังนั้น ก่อนที่จะตั้งคำถามเกี่ยวกับเลเวอเรจในการเทรดฟอเร็กซ์ ให้ถามตนเองก่อนว่า: "ฉันกำลังเทรดในขนาดเล็กอยู่หรือไม่?"

คำพูดของอาร์คิมิดีส

อาร์คิมิดีสกล่าวว่า: "ให้ฉันมีเลเวอเรจหนึ่งตัว ฉันสามารถยกโลกทั้งใบ!" หลายคนอาจคุ้นเคยกับเลเวอจในตลาดการเงินดี ในตลาดหุ้น กลไกการเทรดกำหนดให้เราต้องเตรียมเงินตามราคาที่ขายหุ้น ไม่มีการลดทอน แต่บริษัทหลักทรัพย์สามารถอนุญาตให้ลูกค้าที่มีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ลงทุนด้วยการกู้ยืม โดยนักลงทุนสามารถกู้หุ้นหรือเงินได้โดยไม่ต้องมีหลักประกัน จากนั้นจึงชำระคืนหลังจากการทำธุรกรรมที่กำหนด บริษัทหลักทรัพย์ยังอนุญาตให้นักลงทุนใช้การกู้ยืมทุน

รูปแบบการเทรดแบบใช้เลเวอเรจ

ลักษณะของตลาดฟิวเจอร์สคือการเทรดที่ใช้เงินมัดจำ ซึ่งยกตัวอย่างการเทรดแบบที่มีเลเวอเรจ ในการเทรดฟอเร็กซ์ก็เป็นการเทรดแบบใช้เงินมัดจำ โดยนักลงทุนจะต้องให้เงินมัดจำบางส่วนเพื่อเป็นหลักประกันในการทำธุรกรรมขนาดใหญ่ โดยเลเวอเรจจะมีผลต่อจำนวนเงินมัดจำ หนึ่งในเหตุผลที่นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายขึ้นก็คือ เลเวอเรจยินยอมให้ต่ำลงในการลงทุน เช่น ในกรณีที่ไม่มีการใช้เลเวอเรจ การเปิดสถานะ 1 สแตนดาร์ดล็อต EURUSD จำเป็นต้องใช้เงินอย่างน้อย 100,000 ดอลลาร์ แต่ถ้าใช้เลเวอเรจ 1:100 เพียงต้องใช้ 1,000 ดอลลาร์เท่านั้น ฉะนั้นจะเห็นว่าในกรณีที่มีเลเวอเรจ ผู้ลงทุนจะต้องใช้เงินน้อยลงสำหรับการเปิดสถานะเดียวกัน

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเลเวอเรจ

หลายคนมีความรู้สึกไม่พอใจต่อเลเวอเรจ เชื่อมโยงมันกับความเสี่ยงมากเกินไป แต่ในประเด็นนี้เลเวอเรจไม่ควรถูกตำหนิจริงๆ เพราะเลเวอเรจและความเสี่ยงไม่มีความสัมพันธ์กันโดยตรง และไม่มีความสัมพันธ์กับผลกำไรหรือขาดทุน สิ่งที่เลเวอเรจมีผลโดยตรงคือเงินมัดจำเท่านั้น ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงของตลาดเท่านั้นที่จะมีผลต่อกำไรขาดทุน

ผลกระทบของการเทรดแบบเต็มที่

ทำไมผู้ลงทุนจำนวนมากถึงเชื่อว่าเลเวอเรจคือการเพิ่มความเสี่ยง? ฉันสามารถสันนิษฐานได้ว่าคนกลุ่มนี้มักจะเทรดด้วยขนาดที่ใหญ่มาก เลเวอเรจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกำไรขาดทุนในระดับที่ใช้ได้ แต่การมีเลเวอเรจทำให้สามารถเปิดสถานะได้มากขึ้นด้วยทุนที่มีเท่าเดิม ตัวอย่างเช่น หากไม่มีเลเวอเรจ บัญชี 100,000 ดอลลาร์ สามารถเปิดสถานะ EURUSD ได้ใกล้เคียง 1 สแตนดาร์ดล็อต (ไม่คำนึงถึงความผันผวน) แต่เมื่อใช้เลเวอเรจ 1:100 บัญชีเดียวกันสามารถเปิดสถานะ EURUSD ได้เกือบ 10 สแตนดาร์ดล็อต ดังนั้นหากตลาดผันผวน 10 จุด กำไรขาดทุนของกรณีแรกจะอยู่ที่ประมาณ 100 ดอลลาร์ ขณะที่กรณีหลังจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ดอลลาร์ซึ่งดูเหมือนว่าเลเวอเรจได้เพิ่มกำไรขาดทุนขึ้นมา อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรละเลยว่าเป็นการเทรดเต็มขนาด เต็มขนาด!

การจัดการเงินที่ถูกต้อง

ดังนั้นถ้าเทรดเพียง 1 สแตนดาร์ดล็อต เลเวอเรจจะมีผลไหม? ดังนั้นในการเสี่ยงหรือกำไรไม่ใช่เลเวอเรจที่ทำให้มันขยายขึ้น แต่เป็นการเทรดขนาดใหญ่หรือเต็มขนาดที่ทำให้การปรับขยายเกิดขึ้น เราทุกคนรู้ดีว่าแม้ไม่ใช้เลเวอเรจ แต่การเทรดขนาดใหญ่ก็มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นไม่ควรโยนความผิดให้กับเลเวอเรจเมื่อการจัดการเงินไม่มีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของการใช้เลเวอเรจ

ในระดับหนึ่ง ประโยชน์ของการมีเลเวอเรจก็ชัดเจน ในกรณีที่ควบคุมตำแหน่งอย่างเหมาะสม การใช้เลเวอเรจช่วยลดอัตราการใช้เงินทุน ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับการผันผวนของตลาด และเมื่อการทำธุรกรรมชำนาญ เลเวอเรจที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้เงินทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรของบัญชี (โปรดทราบว่านี่คือประสิทธิภาพในการทำกำไร ไม่ใช่การขยายกำไร)

การใช้เลเวอเรจอย่างมีสติ

สำหรับการใช้วิเคราะห์อย่างมีเหตุผลเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่การไม่คิดแล้วฟังคนอื่นแล้วปฏิเสธการใช้เลเวอเรจก็ถือว่าขาดสติ; ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ต้องพูดถึงว่าจะเป็น "ยา" หรือ "ยาพิษ" หากไม่อภิปรายว่าปริมาณเป็นอย่างไรแล้วกำหนดว่าเป็นยาพิษก็คงจะโง่เกินไป

ความสำคัญของการจัดการเงิน

ไม่ว่าในตลาดไหนรวมถึงตลาดฟอเร็กซ์ การจัดการเงินมีความสำคัญมาก ในกรณีที่ใช้เลเวอเรจ ต้องให้ความสำคัญกับการจัดการเงินอย่างมาก อย่าให้เข้าสู่จิตใจของนักพนัน หากคุณชอบ "ALL IN" ขออภัย ฉันสามารถบอกได้ว่าคุณไม่เหมาะที่จะทำการเทรด!