ปัญหาที่นักลงทุนหลายคนพบบ่อย

สิ่งที่ทำให้หลายๆ นักลงทุนรู้สึกกังวลไม่ใช่วิธีการตัดสินใจตามทิศทางตลาด แต่เมื่อสามารถตัดสินใจได้เสร็จแล้ว กลับไม่รู้ว่าจะเข้าซื้อในระดับราคาไหน ซึ่งสิ่งที่ต้องอธิบายก่อนก็คือจุดสูงและจุดต่ำแบบสัมพัทธ์ ซึ่งไม่เหมือนกับจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดทั่วไป

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับจุดเข้าทำการซื้อขาย

นักลงทุนใหม่หลายคนมักจะพยายามหาจังหวะการซื้อขายที่ดีที่สุด โดยต้องการหาจุดเข้าที่สมบูรณ์ที่สุด เมื่อคิดแบบนี้ในการเทรด จะพบว่ามักไม่มีโอกาสทำธุรกรรมได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดในช่วงนั้นอยู่ที่ไหน ยกเว้นเมื่อเรามองย้อนกลับไป

แนวทางในการตกลงใจเข้าทำการซื้อขาย

ดังนั้น เราจึงควรมองหาจุดที่เหมาะสมในการเข้าทำการซื้อขาย โดยมุ่งเป้าไปที่การทำกำไร ไม่ว่าจะลงเดิมพันตามทิศทางไหนก็ตาม วิธีการตกลงใจเข้าซื้อขายจึงแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ดังนั้นจึงมีวิธีการหลายประการ:

วิธีการที่ 1: มองหาจุดแนวต้านหรือแนวรับที่สำคัญในช่วงเวลาล่าสุด

เมื่อเราตัดสินใจทิศทางอย่างแน่ชัด เช่น ความตั้งใจซื้อ เราสามารถมองหาจุดแนวรับที่เหมาะสมที่จะใช้เป็นประเด็นในการเข้าซื้อของเรา หากราคาถึงแนวรับนั้นและไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ เราสามารถเข้าซื้อที่จุดนี้ได้ แต่ถ้าทะลุ จะต้องรอดูแนวรับถัดไปในบริเวณนั้น

วิธีการที่ 2: รอการเบี่ยงเบนของ MACD ระยะสั้น

การเบี่ยงเบนระยะสั้นที่พูดถึงในที่นี้จะเน้นไปที่กราฟ MACD ในช่วงเวลา 5 นาทีหรือ 15 นาที เมื่อเราต้องการซื้อ มองให้ดีเมื่อมีการปรับฐาน ควรใส่ใจในเบี่ยงเบนด้านล่างของ MACD หลังจากที่เกิดการเบี่ยงเบนด้านล่าง ถือว่าเป็นจุดต่ำซึ่งเมื่อซื้อใกล้จุดนี้ถือเป็นโอกาสที่เหมาะสมในการเข้าเทรด

วิธีการที่ 3: ใกล้จุดตัดเส้น

ในกรณีนี้เมื่อกราฟทะลุขึ้นไป รูปแบบได้เกิดขึ้นแล้ว ราคาหลังจากทะลุจะกลับมาทดสอบจุดตัดเส้นนี้ เมื่อถึงจุดนี้การทำการซื้อขายในทิศทางเดียวกันกับการทะลุเส้น จะเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อ โดยควรตั้งจุดหยุดขาดทุนไว้ที่อีกด้านของเส้นเพื่อหลีกเลี่ยงการทะลุที่เป็นเท็จ

วิธีการที่ต่างกันตามความเข้าใจ

วิธีการที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นสิ่งที่ฉันใช้บ่อย แน่นอนว่าแต่ละคนอาจมีมุมมองและความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป วิธีการมีหลายรูปแบบตราบใดที่มันช่วยให้เกิดประโยชน์ในการซื้อขายก็ควรค่าแก่การใช้เป็นอย่างมาก