การใช้ MACD ในการจับจุดขายที่ดีที่สุด
ผู้เขียน:   2024-11-14   คลิ:1

การใช้ MACD ในการจับจุดขายที่ดีที่สุด

ในการลงทุนจริง ตัวชี้วัด MACD ไม่เพียงแต่มีความสามารถในการจับจุดต่ำ ( Divergence คือ จุดต่ำ) หรือการจับจุดที่มีการขึ้นอย่างรุนแรง (MACD แสดงสัญญาณซื้อสองครั้งติดต่อกัน) การจับจุด "สิ้นสุดการล้างตลาด" (การซื้อเมื่อมีการเบี่ยงเบนขึ้นลง) ยังช่วยให้คุณสามารถจับจุดขายที่ดีที่สุดเพื่อช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการขายที่จุดสูงสุด ทำให้คุณได้สัมผัสกับความรู้สึกของการเก็บเกี่ยวที่สมบูรณ์แบบ การใช้ MACD ในการจับจุดขายที่ดีที่สุด

วิธีการจับจุดขายที่ดีที่สุดด้วย MACD

วิธีการใช้ MACD เพื่อจับจุดขายที่ดีที่สุดมีดังนี้: ปรับค่าตัวชี้วัด MACD โดยตั้งค่าพารามิเตอร์ EMA ด่วนเป็น 8, EMA ช้ากว่าเป็น 13, และ DIF เป็น 9 โดยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่จะตั้งไว้ที่ 5, 10, 30 หลังจากตั้งค่าพารามิเตอร์เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาในการค้นหาจุดขาย

การใช้จุดขายแรก

เนื่องจากจุดขายของหุ้นมีมากมาย ที่นี่จะแนะนำจุดขายที่มีประสิทธิภาพและใช้งานบ่อยที่สุด 2 จุด: จุดขายแรกหรือเรียกว่าจุดสูงสัมพัทธ์ หมายถึงจุดที่ราคาหุ้นได้มีการขึ้นสูงขึ้นอย่างมากและเกิดการเคลื่อนไหวด้านข้างซึ่ง形成จุดสูงสัมพัทธ์ นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนที่มีเงินลงทุนมาก จะต้องขายออกหรือปรับลดพอร์ตในจุดขายแรก

วิธีการประเมิน "จุดขายแรก"

ทักษะในการพิจารณาว่า "จุดขายแรก" เกิดขึ้นหรือไม่ คือ "ราคาหุ้นเคลื่อนที่ด้านข้าง และ MACD ตัดกันเพื่อขาย" กล่าวคือ เมื่อราคาหุ้นมีการขึ้นต่อเนื่องและเกิดการเคลื่อนไหวด้านข้าง เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 5 วันและ 10 วันยังไม่มีการตัดกัน แต่ MACD ตัดกันก่อน โดยวันที่มีการตัดกันจะเป็นช่วงที่ "จุดขายแรก" เกิดขึ้น ควรขายออกหรือปรับลดพอร์ต

การจับจุดขายที่เป็นหลอกลวง

จุดขายที่เป็นหลอกลวงหรือเรียกว่าจุดสูงสัมบูรณ์ หลังจากจุดขายแรกเกิดขึ้นแล้ว หุ้นบางตัวอาจไม่มีการลดลงอย่างรุนแรง แต่หลังจากที่มีการปรับตัวลงเพื่อซ่อนการขายกลายเป็นการหลอกให้ขึ้นอย่างฉับพลัน มักจะมีการเพิ่มราคาขึ้นอีกครั้งสุดท้ายจากผู้ลงทุนที่อยู่ในทิศทางขาขึ้น ก่อนที่จะทำการขาย ซึ่งเรียกว่า การเพิ่มราคาหลอกนี้ มักจะจุดสูงที่เกิดขึ้นในช่วงนี้มักจะเป็นจุดสูงสุดของแนวโน้มขาขึ้น ดังนั้นจึงเรียกว่าจุดสูงสัมบูรณ์ หากไม่สามารถหนีออกไปได้ในเวลานี้ ผลที่ตามมาอาจน่าวิตกการใช้ MACD ในการจับจุดขายที่ดีที่สุด

วิธีการประเมิน "จุดสูงสัมบูรณ์"

วิธีการประเมินจุดสูงสัมบูรณ์ คือ "ราคาที่มีการเบี่ยงเบนกับ MACD เพื่อขาย" กล่าวคือ เมื่อราคาหุ้นพุ่งต่อเนื่องไปยังระดับสูงสุดใหม่ แต่ MACD ไม่สามารถทำให้ราคาสูงขึ้นใหม่ได้ ทั้งสองมีการเคลื่อนไหวที่เบี่ยงเบนกันซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่า ราคาหุ้นถึงจุดสูงสุด สำหรับการขายหุ้นในจุดสูงสัมบูรณ์นั้น ต้องไม่รอจนกว่า MACD จะตัดกันใหม่เพราะเมื่อ MACD ตัดกัน ราคาหุ้นได้ลดลงไปมากแล้ว ในการขายหุ้นที่จุดสูงสัมบูรณ์จะต้องอิงจากการรวมกลุ่มของ K-line

การระวังในช่วงการขาย

โดยทั่วไปในช่วงการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าหากพบว่า "เปิดสูงและลดต่ำลง" หรือ "ลายลงยาวที่เป็นเส้นเขียวแท่งยาวภายในแนวรับ" จะเป็นโอกาสที่เหมาะสมในการขาย อีกประการหนึ่งที่ต้องเตือนคือ เนื่องจาก MACD มีความล่าช้า การใช้ MACD ในการค้นหาจุดขายที่ดีที่สุดและการหลีกหนีจากจุดสูงสุดนั้น เหมาะสำหรับหุ้นที่มีการขึ้นสูงหลังจากที่ทำการตั้งตัวแล้ว ไม่เหมาะกับหุ้นที่เกิดการวิ่งขึ้นและตกอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังต้องคำนึงว่าทั้งสองจุดข้างต้นส่วนใหญ่มักจะปรากฏหลังการขึ้นมากของหุ้น กล่าวคือ มันจะเกิดขึ้นหลังจากการขึ้นในกระแสหลักของหุ้น หากหุ้นยังไม่ขึ้นอย่างมากและไม่มีทิศทางกระแสหลัก ก็ไม่ควรใช้วิธีการข้างต้น



ความคิดเห็นของผู้ใช้

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

เปิดบัญชีกับ
โบรกเกอร์ Dupoin

สมัครสมาชิกกับเรา ผ่านโบรกเกอร์ Dupoin

**สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด สำหรับสมาชิกเท่านั้น!!

เกี่ยวกับเรา

ติดต่อเรา

เรื่องที่น่ารู้

Crescentcollege คือเว็บไซต์ที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทุกความเคลื่อนไหวในตลาดเหล่านี้

เราไม่สนับสนุนการชักชวนให้เทรดหรือการระดมทุนในทุกรูปแบบ เรามุ่งมั่นเป็นเพียงสื่อกลางในการแบ่งปันความรู้ที่เป็นประโยชน์เท่านั้น

**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกประเภทมีความเสี่ยง นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรควรทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนก่อนการซื้อขาย**

ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ Crescentcollege สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์

ติดต่อทางอีเมล: [email protected]

ติดต่อเพิ่มเติมทาง Line:

© 2024 Crescentcollege. สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามทำซ้ำ คัดลอก หรือเผยแพร่ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

เรานำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง โดยไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำการลงทุน