การทำเงินคือชัยชนะ

มีผู้คนมากมายถามว่า การเทรด Forex ได้กำไรมากแค่ไหนจึงจะถือว่าเป็นผลสำเร็จที่ดี คำถามนี้ไม่มีคำตอบที่เด็ดขาดจริงๆ หากมองในภาพรวม การทำกำไร 10% ต่อปีจากการเทรดจริง หรือ 30% จากมาร์จิ้นตลอดทั้งปี ถือเป็นผลลัพธ์ที่ดีแล้ว บริษัทกองทุนชั้นนำในวอลล์สตรีทเองก็มีผลลัพธ์ในระดับนี้ นอกจากนี้บริษัทกองทุนขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงมอบหมายเป้าหมายให้กับเทรดเดอร์อยู่ที่ประมาณ 15% ถึง 20% เท่านั้น และไม่ใช่เทรดเดอร์ทุกคนที่จะทำเป้าหมายได้ ผู้คนจำนวนมากกลับดูแคลนผลลัพธ์เหล่านี้ว่ามันน้อยเกินไป ไม่น่าจะร่ำรวยได้เลย!

ความหมายของการร่ำรวย

อย่างไรก็ตาม เมื่อเราพูดถึงการร่ำรวย เราก็ควรดูว่าสิ่งใดที่เรียกว่าร่ำรวยจริงๆ คำถามนี้ก็ไม่มีคำตอบเดียว ทุกคนมีแนวคิดเกี่ยวกับการร่ำรวยที่แตกต่างกัน พ่อค้าแม่ขายริมถนนที่ทำเงินได้หลายหมื่น ถือว่าเขาร่ำรวยแล้ว แต่ทว่าแม้แต่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ทำเงินได้หลายสิบล้าน ก็อาจไม่ถือว่าตนร่ำรวย เพราะฉะนั้นจึงต้องหามาตรฐานที่เป็นธรรมมาใช้ในการประเมิน ผลกำไรในช่วงระยะเวลา 1 ปีว่าเราทำได้กี่เปอร์เซ็นต์

การเปรียบเทียบผลลัพธ์การลงทุน

มาตรฐานขั้นต่ำคืออัตราดอกเบี้ยของธนาคาร หากคุณไม่ทำการลงทุนใดๆและฝากเงินไว้ที่ธนาคาร และผลกำไรที่ได้สูงกว่าผลตอบแทนจากการลงทุนของคุณ หมายความว่าการลงทุนของคุณถือว่าล้มเหลว หรือไม่ประสบผลสำเร็จ มาตรฐานสูงสุดคือต้องเปรียบเทียบกับบริษัทกองทุนในวอลล์สตรีท ซึ่งเป็นผู้ค้าที่ดีที่สุดในโลก หากในครึ่งปีแรกคุณทำกำไรได้ 30% ก็หมายความว่าครึ่งปีหลังคุณสามารถพักผ่อนกันได้ ในระหว่างที่คุณหยุดพัก คุณควรลองคิดดูว่า “นักลงทุนในวอลล์สตรีทก็ไม่สามารถทำกำไรได้เร็วเท่าฉัน” นักลงทุนจำนวนมากมักทำกำไรได้มากถึง 100% ภายในปีหรือแม้แต่เดือน แต่สิ่งนี้ถือว่าไม่ใช่มาตรฐาน เพราะไม่มีใครสามารถทำกำไรในระดับนี้ได้อย่างต่อเนื่อง

ตลาดอนุพันธ์ที่เอื้อต่อการลงทุน

หากคำนวณให้ดีก็จะพบว่า หากทำกำไรปีละ 30% คุณจะมีเงินทุนเพิ่มขึ้นถึง 1378% ในอีก 10 ปี หากคุณยังรู้สึกว่านี่ช้าเกินไป ขออภัยนะ แต่พระเจ้าอาจช่วยคุณไม่ได้แล้ว ในความเป็นจริง ตลาดอนุพันธ์ไม่ว่าจะเป็นดัชนี ฟิวเจอร์ส หรือสัญญา CFD รวมถึงตลาด Forex (ไม่ใช่ตลาดการซื้อขายจริงในประเทศ) นับว่าเป็นตลาดที่มีความไม่มีตัวตนมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากจินตนาการของคนเท่านั้น ตลาดนี้เท่านั้นที่สามารถเปรียบเทียบได้กับเกมออนไลน์ แต่ขนาดของตลาดอนุพันธ์นั้นใหญ่กว่ามาก ในตลาดนี้ไม่มีการผลิต การไหลเวียน หรือการขาย นักลงทุนละทิ้งสิ่งที่จับต้องได้ทั้งหมด สร้างสินค้าจากโมเดลทางคณิตศาสตร์ที่ไม่เป็นรูปธรรม ตั้งกฎเกมและเริ่มทำการซื้อขายกันอย่างเต็มที่ ขนาดเงินทุนที่หมุนเวียนในตลาดนี้สูงถึงหลายแสนล้านดอลลาร์ทุกวัน

ความเป็นจริงของตลาด

แต่นี่ก็เป็นตลาดที่แท้จริง ทุกการเคลื่อนไหวของกราฟ K-line บนคอมพิวเตอร์ของนักลงทุน ข่าวจากสื่อที่รายงานตลาดอนุพันธ์อย่างไม่หยุดยั้ง การขึ้นลงของเงินในบัญชี รวมถึงการเกิดและการล้มละลายของมหาเศรษฐียังเกิดจากตลาดนี้อีกด้วย บุคคลที่ทำงานในตลาดนี้มีจำนวนมาก ทำให้เกิดการให้บริการซอฟต์แวร์ และบริการที่ปรึกษาต่างๆ ที่มากมายซึ่งมีจำนวนมากเกินกว่าจะสามารถนับได้

สรุป

ดังนั้น ตลาดที่ทั้งสมจริงและไม่มีตัวตนแบบนี้จึงถือเป็น “ของขวัญจากฟ้าที่มอบให้แก่มนุษย์” ในตลาด “มือเปล่าจับเสือ” นี้ หากคุณสามารถทำเงินได้ นั่นคือชัยชนะ แต่หากคุณโลภมาก นั่นคือความผิด