การนำเสนอพานักเรียนไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

ช่วงนี้มักเห็นสถาบันฝึกอบรมการเทรดนิยมพานักเรียนไปวัดหลิงหยิน, ภูเขาอู่ตัน, ภูเขาเอ๋อเหมย และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่น ๆ เพื่อพูดถึงกฎการเทรดแบบเซนและวัฒนธรรมทางจิตวิญญาณ ผมอยากถามว่าเราควรวางโต๊ะบูชาพระไว้หน้าคอมพิวเตอร์ รอให้เปิดตลาดก่อนแล้วจึงจุดธูปบูชาไหม? หรือพวกเราควรก้มตัวสามครั้งแล้วสวดมนต์? หรือต้องเชิญพระอาจารย์มาที่บริษัทแล้วสอบถามว่าควรซื้อหุ้นตัวไหน? ผมไม่ขอโต้แย้งกับหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาและลัทธิเต๋า เคยศึกษาพระสูตรบางอย่าง เช่น พระสูตร金刚经 และ 道德经 แต่การพานักเรียนที่ไม่ได้แม้แต่จะติดตั้งซอฟต์แวร์การเทรดไปวัดหรือขึ้นภูเขาแล้วทุกคนจะสามารถทำกำไรได้จริงหรือ?

การหลอกลวงในสถาบันฝึกอบรม

สถาบันเหล่านี้มักจะทำประชาสัมพันธ์เพื่อดึงดูดผู้คนให้เข้ามาเรียนรู้ แม้กระทั่งอ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญการเทรดจากวอลล์สตรีท เนื่องจากเคยอาศัยอยู่ในต่างประเทศสองปี หรืออาจจะเป็นอาจารย์ที่สอนวิชาเกี่ยวกับการเงินของมหาวิทยาลัยชั้นนำ แต่ไม่ได้แสดงให้เห็นว่ามีประสบการณ์ในการเทรดจริง ๆ ความจริงผู้คนเหล่านี้ไม่ได้มีการทำกำไรในตลาดการเทรดอย่างที่พวกเขาอ้าง จึงขอให้เปิดเผยเอกสารการซื้อขายที่พิสูจน์ว่าทำกำไรได้จริง

การจัดเก็บค่าใช้จ่ายที่ไม่สมเหตุสมผล

เราไม่สามารถมองข้ามค่าธรรมเนียมการเรียนที่ไม่เหมาะสมของสถาบันการฝึกอบรมที่มีอยู่ในปัจจุบัน ช่วงเริ่มต้น: 3-5,000 บาท ระยะเวลา 1 เดือน ระดับกลาง: 10,000-20,000 บาท ระยะเวลา 2 สัปดาห์ และระดับสุดยอด 2-10,000 บาท ระยะเวลา 3-5 วัน ราคาค่าเรียนกลับสูงขึ้นแม้ระยะเวลาเรียนจะสั้นลง มีความตลกขบขันมากที่ต้องใช้เวลา 1 เดือนเพื่อเรียนรู้พื้นฐาน แต่การเป็นผู้เชี่ยวชาญนั้นใช้เวลาเพียง 3 วันเท่านั้น

ข้อคิดเกี่ยวกับการเทรด

สุดท้ายนี้ผมขอแชร์ข้อคิดเกี่ยวกับการเทรดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สำหรับผม การเทรดคือการรวมกันของสถิติและความน่าจะเป็น ค้นหารูปแบบที่แตกต่างกันของช่วงราคา ซึ่งอาจดูยุ่งเหยิงแต่ตามความเป็นจริงแล้วมีระเบียบ เช่นเดียวกับกราฟ K ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โปรดจดจำว่าความสำเร็จในการเทรดไม่ได้เกิดขึ้นจากการเสี่ยงหรือโชคช่วย แต่เกิดจากความพยายามและการค้นคว้าที่เกิดขึ้น