การวิเคราะห์เทคนิคและข้อมูลในการซื้อขายฟอเร็กซ์

การซื้อขายฟอเร็กซ์ไม่เพียงแต่ต้องพิจารณาปัจจัยพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์เทคนิคและการวิเคราะห์ข้อมูล ในวันนี้เราจะพูดถึงการนำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการซื้อขายที่มีความโกลาหลในกลยุทธ์การวิเคราะห์เทคนิค

แนวคิดการซื้อขายแบบความโกลาหล

วิธีการซื้อขายแบบความโกลาหลสร้างขึ้นโดยนักลงทุนชั้นนำจากสหรัฐอเมริกาคือบิล วิลเลียมส์ และได้ถูกบันทึกลงในหนังสือของเขาชื่อ “วิธีการซื้อขายแบบความโกลาหล” วิธีการนี้เป็นชุดความคิดในการลงทุนทางการเงิน กลยุทธ์การซื้อขาย และสัญญาณการเข้าหรือออกที่แทบจะสมบูรณ์แบบซึ่งพัฒนาขึ้นโดยด็อกเตอร์บิล วิลเลียมส์ ผู้ซึ่งเป็นนักซื้อขายที่โดดเด่นในสาขาความโกลาหล

ทฤษฎีความโกลาหลในการลงทุน

เขาได้บูรณาการความคิดเกี่ยวกับทฤษฎีความโกลาหล (Chaos Theory) ซึ่งเป็นหนึ่งในสองการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 20 กับทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ในสนามการลงทุนทางการเงิน และสร้างขึ้นมาเป็นวิธีการซื้อขายที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก

มิติหลักของการซื้อขายแบบความโกลาหล

วิธีการซื้อขายแบบความโกลาหลประกอบด้วยมิติหลักห้าประการ (Technical Indicators) ประกอบไปด้วย: เส้นจระเข้ (Alligator), แฟรกทัล (The Fractal), โมเมนตัม (The Momentum), แรงขับ (Acceleration), และเส้นสมดุล (The Balance Line) เส้นจระเข้แบ่งออกเป็นเส้นฟัน (Jaw), เส้นปาก (Lips), และเส้นกราม (Teeth)

บทบาทของเส้นจระเข้ในการซื้อขาย

โดยพื้นฐานแล้ว ไม่ว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด เส้นจระเข้จะทำหน้าที่เป็นเข็มทิศที่ช่วยให้การซื้อขายของเราถูกต้องและมีทิศทาง และเส้นจระเข้จะช่วยให้เราได้กำไรในแนวโน้มที่มีทิศทาง จนกว่าจะมีแนวโน้มการรวมกันที่ทำให้เราขาดทุนกำไรที่ได้มา

การเกิดแฟรกทัลในการซื้อขาย

เมื่อเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่สามเส้นสีฟ้า แดง และเขียวพันกัน แสดงว่าจระเข้นั้นกำลังนอน เมื่อมันตื่นขึ้นมาจากการนอนหลับที่ยาวนาน มันจะรู้สึกหิวมาก และจะเริ่มไล่ตามราคาเพื่อเติมเต็มท้องของมัน จนกว่ามันจะรู้สึกพอใจ ดังนั้นเมื่อจระเข้หลับเรามักจะอยู่ห่างจากตลาด และรอจนกว่าจะมีแฟรกทัลที่ถูกกระตุ้นที่กราม

การวิเคราะห์อารมณ์การซื้อขาย

แฟรกทัลเกิดจากหลักการง่ายๆ ของการซื้อขายที่ยกระดับ เมื่อมีราคาขึ้น ผู้ซื้อจะมีแนวโน้มที่จะซื้อในราคาสูง ทำให้ราคาค่อยๆ ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อราคาขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการของผู้ซื้อก็จะลดน้อยลง จนในที่สุดราคาจะตกลงไป ตลาดเข้าสู่สถานการณ์ใหม่ที่มีผลกระทบต่อความตั้งใจของผู้ซื้อขาย ในช่วงนี้ตลาดอยู่ในโซนมูลค่าต่ำ

การดูวัดโมเมนตัมในการซื้อขาย

เมื่อความตั้งใจของผู้ซื้อสูงกว่าผู้ขาย ราคาเริ่มสูงขึ้น หากโมเมนตัมของผู้ซื้อมีพลังเพียงพอในการทะลุแฟรกทัลขึ้น เราจะเข้าสู่การซื้อใหม่ที่แฟรกทัลขึ้น โมเมนตัม AO และโมเมนตัม AC

บทสรุปเกี่ยวกับวิธีการซื้อขายแบบความโกลาหล

เมื่อเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวชี้วัดเหล่านี้แล้ว เราได้เข้าใจถึงแนวคิดพื้นฐานของวิธีการซื้อขายความโกลาหลโดยรวม ซึ่งเป็นวิธีการซื้อขายที่ปฏิบัติตามแนวโน้ม การทำให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ของผู้ที่แข็งแกร่ง ในขณะที่ผู้ที่อ่อนแอยังคงอ่อนแอ ข้อดีคือสามารถรับผลกำไรส่วนใหญ่จากการเคลื่อนไหวในตลาด แต่ข้อเสียคือมีโอกาสการหยุดขาดทุนบ่อย