สาเหตุของการขาดทุนในการซื้อขายคืออะไร?

ผู้คนอาจมีคำตอบที่แตกต่างกัน เช่น ปัญหาทัศนคติในการซื้อขาย, ปัญหาการจัดการทุน, ปัญหาระบบการซื้อขาย, ปัญหาการดำเนินการ, ปัจจัยที่ไม่คาดคิด, ปัญหาสุขภาพ หรือแม้แต่ปัญหาจากลักษณะนิสัยต่างๆ จริงๆ แล้วมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดการขาดทุน ในแต่ละขั้นตอนของการซื้อขายหากเกิดปัญหาขึ้นก็อาจนำไปสู่การขาดทุนในที่สุด ดังนั้น หลายคนจึงสรุปสาเหตุสุดท้ายของการขาดทุนในการซื้อขายว่า: ไม่สามารถชนะใจตัวเอง!

การชนะใจตัวเองเป็นไปได้หรือไม่?

อย่างไรก็ตาม คุณสามารถที่จะเอาชนะตัวเองได้หรือไม่? หากไม่มีปัจจัยอื่นๆ ที่มากำหนดคุณ คุณจะสามารถชนะใจตัวเองได้หรือเปล่า? การเอาชนะใจตัวเองย่อมยากกว่าการทำกำไรจากการซื้อขายเป็นแน่! การใช้ความไม่สามารถชนะใจตัวเองเป็นข้ออ้างในการอธิบายการขาดทุนนั้นคือการหลอกตัวเองอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หากต้องการที่จะเอาชนะใจตัวเอง เราจำเป็นต้องอาศัยพลังจากภายนอก การพยายามเอาชนะตัวเองและทำกำไรจากการซื้อขายเพียงลำพังนั้น เป็นทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยและไม่มีความสนุกสนาน แม้จะพยายามอย่างมากในการเอาชนะจุดอ่อนของตัวเอง แต่เมื่อถึงจุดนั้นแล้ว การทำกำไรจากการซื้อขายอาจกลายเป็นเรื่องที่ไร้ความหมาย

การขาดการจัดการการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพ

สาเหตุหลักของการขาดทุนจากการซื้อขายตามที่ผมมองคือ ทุกคนมองว่าการซื้อขายเป็นงานเพียงอย่างเดียว และเป็นงานที่ไม่มีความยุ่งยาก การซื้อขายเป็นพฤติกรรมส่วนบุคคล เกือบไม่มีใครที่ตระหนักว่าการซื้อขายนั้นไม่ได้เป็นงานเพียงอย่างเดียว แต่เป็นหลายงานที่ต้องทำ การซื้อขายที่มีประสิทธิภาพควรเป็นพฤติกรรมที่เรียกว่าเป็นองค์กร การขาดการจัดการการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพนี่แหละคือปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดการขาดทุนจากการซื้อขาย

ข้อมูลจากสื่อที่ผู้นำเสนอ

แทบจะทุกสื่อที่บอกนักลงทุนเกี่ยวกับวิธีการปรับปรุงทักษะการซื้อขาย, วิธีการได้รับระบบการซื้อขายที่เหมาะสม, วิธีการสร้างฐานข้อมูลของตนเอง, วิธีการรักษาทัศนคติที่ดีในการซื้อขาย และวิธีการจัดการเงินทุน เรามักไม่เคยเห็นบทความเกี่ยวกับการจัดการการซื้อขายอย่างมีประสิทธิภาพ การซื้อขายต้องมีการจัดการ ไม่ใช่ว่าคุณจะสามารถจัดการทุกอย่างได้เพียงอย่างเดียว

การจัดการธุรกิจการซื้อขาย

คุณอาจสามารถวางแผนการดำเนินการได้ดี คุณอาจมีแผนการจัดการเงินทุนที่มีประสิทธิภาพ คุณอาจมีระบบการซื้อขายที่ดีเยี่ยม หรือแม้แต่คุณอาจมีทุกอย่างที่จำเป็นในการทำการซื้อขาย แต่คุณอาจยังไม่สามารถทำกำไรจากตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ! เพราะคุณอาจไม่สามารถจัดการการซื้อขายได้อย่างมีกลยุทธ์!

กระบวนการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพ

ตลอดช่วงการซื้อขาย คุณจะพบกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องความต้องการและอารมณ์ รวมถึงปัญหาสุขภาพ และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้การดำเนินการไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ จริงๆ แล้ว กระบวนการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพประกอบด้วย การสังเกตและการวิจัยตลาด, การประเมินตลาด, การวิเคราะห์โอกาสและการประเมิน, การประเมินความเสี่ยง, แผนการดำเนินการ, การดำเนินการตามแผน (ซึ่งมีความท้าทายอย่างมาก), การติดตามหลังการดำเนินการ (ซึ่งต้องใช้ความอดทน) และการปรับเปลี่ยนการดำเนินการและการติดตาม (ซึ่งเป็นความท้าทายใหม่), การรับผิดชอบต่อผลลัพธ์การซื้อขาย (ความสามารถในการรองรับ)

สรุป

การทำให้แต่ละส่วนทำได้ดีเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย และยิ่งถ้าทุกอย่างต้องถูกจัดการโดยคนคนเดียวก็คงยิ่งยากเข้าไปอีก มีหลายคนที่ยอดเยี่ยมในทุกด้าน โดยมีประสบการณ์ที่สูง แต่ผลลัพธ์การซื้อขายก็ยังไม่ดี ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกสับสน ผมเชื่อว่าคนเหล่านี้เป็นคนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ แต่สาเหตุที่ทำให้ผลการซื้อขายไม่ดีคือ: กระบวนการซื้อขายขาดการบริหารจัดการ ขาดการจัดการที่มีประสิทธิภาพ!

บทบาทของการจัดการองค์กร

นักกีฬาที่มีความสามารถมากมาย หากไม่มีการจัดการหรือการบริหาร เขาจะไม่สามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมได้ นักกีฬาที่เก่งที่สุดก็ไม่สามารถอยู่รอดได้หากขาดการจัดการขององค์กรที่มีประสิทธิภาพ อาจกล่าวได้ว่าการจัดระเบียบอย่างมีประสิทธิภาพนั้นคือเงื่อนไขที่จำเป็นสำหรับการสร้างนักเล่นที่ยอดเยี่ยม

การจัดการปัญหาเฉพาะบุคคล

ข้อบกพร่องของบุคคลส่งผลต่อการขาดทุนจากการซื้อขาย ข้อบกพร่องเหล่านั้นมักเป็นสิ่งที่บุคคลยากที่จะมองเห็น และการเอาชนะก็ยากยิ่งกว่า แต่จากการดำเนินการในองค์กร จะสามารถพาให้เอาชนะปัญหาในการซื้อขายของบุคคลได้ พฤติกรรมองค์กรสามารถช่วยให้แต่ละบุคคลใช้จุดแข็งและหลีกเลี่ยงจุดอ่อน และร่วมกันทำให้การซื้อขายมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์จากการบริหารจัดการองค์กร

ด้วยการจัดการขององค์กร งานในการซื้อขายแต่ละอย่างสามารถแบ่งหน้าที่ให้กับบุคคลต่างๆ ซึ่งสามารถทำให้กระบวนการซื้อขายมีความเป็นมืออาชีพและวัตถุประสงค์มากยิ่งขึ้น ทำให้แรงกดดันที่มีถูกกระจายออก สิ่งนี้นำไปสู่การเพิ่มความเป็นกลางและประสิทธิภาพ คุณจะไม่สูญเสียโอกาสที่สำคัญเพราะเหตุผลต่างๆ หรือขยายการขาดทุนเพราะอารมณ์ นอกจากนี้ยังช่วยลดผลกระทบทางอารมณ์จากการซื้อขายที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะในระหว่างกระบวนการดำเนินการซื้อขายและการติดตามตำแหน่งที่ถืออยู่ ซึ่งจะทำให้ผลสัมฤทธิ์ดีขึ้นอย่างมาก