ข้อเสนอแนะในการซื้อขายสำหรับนักลงทุนที่ขาดทุนในการลงทุนโลหะมีค่า

เมื่อเร็วๆ นี้นักลงทุนบางคนที่ติดต่อหาผมได้บอกว่าขาดทุนแล้วควรจะทำอย่างไร ผมอยากพูดว่า หลังจากขาดทุนแล้วคุณได้สรุปสาเหตุของการขาดทุนหรือไม่? คุณได้รับความรู้ใหม่หรือเปล่า?

คุณลงทุนเพื่ออะไร?

นักลงทุนที่เพิ่งเริ่มต้นมักจะให้ความสำคัญกับการเลือกค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขาย โดยดูว่าพลตฟอร์มไหนมีค่าคอมมิชชั่นต่ำ จึงจะเลือกใช้บริการ แต่เมื่อลงทุนจริงๆ พวกเขาจะรู้ว่าตลาดนี้ทำให้ทั้งกำไรและความเสี่ยงขยายตัว ในกรณีของทองคำที่เป็นการซื้อขายในรูปแบบมาร์จินนั้น ความเสี่ยงจะยิ่งใหญ่ขึ้น หากคุณเป็นมือใหม่ที่มองข้ามค่าคอมมิชชั่น มากเกินไป คุณจะต้องประสบกับการขาดทุน เพราะค่าใช้จ่ายพื้นฐานและการเปลี่ยนแปลงราคาทุกวันในการซื้อขายทองคำนั้นค่อนข้างสูง ถ้าบริหารจัดการให้ดี ค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะไม่ใช่ประเด็นที่ต้องกังวล

การเลือกแพลตฟอร์มที่มีความเสถียร

ดังนั้น สิ่งที่ผมต้องการเตือนนักลงทุนคือต้องเลือกแพลตฟอร์มการลงทุนในทองคำที่ถูกต้องและมีความเสถียรก่อน จากนั้นให้ถามตัวเองว่าทำไมถึงเลือกลงทุนในทองคำแทนที่จะเลือกหุ้น? อย่าเลือกแพลตฟอร์มที่ไม่เหมาะสมหรือคำแนะนำการซื้อขายที่ไม่เหมาะสมจากค่าธรรมเนียมการซื้อขาย

สร้างระบบการซื้อขายของตัวเอง

คุณได้พยายามสร้างระบบการซื้อขายตามกระบวนการขาดทุนหรือไม่? อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญสำหรับนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มต้น แต่ถ้าคุณยังคงเข้าซื้อขายตลอดทั้งวัน คุณจะต้องเจอกับการขาดทุนอย่างแน่นอน ดังนั้น ผมจึงบอกลูกค้าของผมเสมอว่าควรต้องให้ความสำคัญกับเวลาในการเข้าตลาด จุดราคา และขนาดของการเปิดสถานะ

การใช้บัญชีจำลองในการทดสอบ

คุณได้มีการใช้บัญชีจำลองเพื่อทดสอบหรือไม่? หลายคนอาจจะทำก่อนที่จะลงสนามจริง แต่หลังจากเริ่มการซื้อขายจริงแล้ว พวกเขาก็เลิกใช้บัญชีจำลอง นี่คือสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง ในขณะที่เราสรุปบทเรียนจากความล้มเหลว เราจะพยายามเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการซื้อขายของเรา ในช่วงนี้ผมขอแนะนำให้ใช้บัญชีจำลองในการทดสอบ และขนาดของเงินในบัญชีจำลองไม่ควรเกินกว่าขนาดของสถานะจริงที่มี ควรจะทำการจำลองอย่างเคร่งครัด ไม่ควรลองในการซื้อขายจริง

การเรียนรู้พื้นฐานอย่างต่อเนื่อง

ตลาดเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สมัยก่อนทองคำสามารถทำกำไรได้ง่าย และรูปแบบของแท่งเทียน (K Line) ก็สามารถจับตามองได้ง่าย ตอนนั้นทองคำและดัชนีดอลลาร์สหรัฐเป็นไปในทิศทางที่ตรงข้ามกัน แต่ในปัจจุบัน สภาพการเมืองและเศรษฐกิจในระดับนานาชาติกำลังซับซ้อนมากขึ้น ดังนั้นเราจึงไม่ควรมีการคิดแบบเก่า แต่ควรเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง