11. บูลลินเจอร์แบนด์

บูลลินเจอร์แบนด์มีความนิยมสูงและมีหลายการใช้งาน รวมถึงการใช้ในการปิดการเทรด ขณะทำการซื้อนั้น (Long) สามารถรอให้แท่ง K ติดต่อกับส่วนบนและเมื่อแท่งนั้นปิดด้านล่างของส่วนบน สามารถตั้งหยุดขาดทุนตามแท่ง K ที่ระดับต่ำที่สุด หากไม่มีการกระตุ้น (ในภาพที่แสดงได้มีการกระตุ้นแล้ว) ก็ให้ตั้งหยุดขาดทุนตามแท่ง K ถัดไป จนกระทั่งมีการกระตุ้นปิดการเทรด ส่วนการขายสั้น (Short) ก็ทำด้วยวิธีเดียวกัน แต่มีทิศทางตรงกันข้าม ภาพแสดงการเปิดออร์เดอร์ขายสั้นครั้งแรกภายหลังจากนั้นรอให้แท่ง K ติดต่อกับส่วนล่างและเมื่อแท่งนั้นปิดเหนือส่วนล่าง สามารถตั้งหยุดขาดทุนที่ระดับสูงสุดของแท่ง K และเมื่อมีการกระตุ้นก็ปิดการเทรด ซึ่งผลกำไรล่าสุดอยู่ที่ 187 จุด.

12. เคนท์เนอร์แบนด์

เคนท์เนอร์แบนด์มีลักษณะคล้ายกับบูลลินเจอร์แบนด์ แต่หลักการคำนวณแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง วิธีการปิดการเทรดด้วยเคนท์เนอร์แบนด์ก็คือการรอให้ราคาติดต่อกับส่วนบนและล่าง แต่เกิดความแตกต่างอย่างมาก เพราะโอกาสที่ราคาจะติดต่อกับเคนท์เนอร์แบนด์สูงมาก แต่เมื่อใดที่ติดต่อแสดงว่าการกลับตัวกำลังเกิดขึ้น จึงควรย้ายหยุดขาดทุนทันทีหรือลงการซื้อขายจริง วิธีการปิดการเทรดในระหว่างการใช้งานก็เหมือนกับบูลลินเจอร์แบนด์ โดยขึ้นอยู่กับทิศทาง Long หรือ Short เมื่อติดต่อกับส่วนบนหรือล่างให้ย้ายหยุดขาดทุนไปที่ระดับต่ำสุดหรือสูงสุด จนกระทั่งหยุดขาดทุนปิดการเทรด วิธีการปิดการเทรดนี้สามารถรวมเข้ากับกลยุทธ์อื่นๆ เพื่อให้ได้กำไรสูงสุด.

13. ระดับสูง/ต่ำ

ระดับสูง/ต่ำถูกสร้างจากราคาสูงสุดและต่ำสุดจากแท่งก่อนหน้า สามารถใช้แท่งก่อนหน้าสองแท่ง สามแท่ง หรือแท่งอื่นๆ ตามที่ต้องการ เพื่อวาดระดับสูง/ต่ำ ในภาพระดับสูง/ต่ำสร้างจากแท่งก่อนหน้าสองแท่ง และได้เปิดการซื้อขายยาวไว้แล้ว จากนั้นยังได้ใช้ระดับล่างในการย้ายหยุดขาดทุน โดยได้รับกำไรเกินกว่า 900 จุด ระดับสูง/ต่ำเป็นวิธีการปิดการเทรดที่ดี มีพลังในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง.

14. เส้นแนวโน้ม

การใช้เส้นแนวโน้มในการปิดการเทรดอาจมีการเข้าและออกอย่างรวดเร็ว หรืออาจสามารถจับแนวโน้มทั้งในลักษณะ การเทรดในภาพชี้ให้เห็นว่ามีการจับแนวโน้มทั้งช่วงเวลา หากใช้เส้นแนวโน้มที่สองในการปิดการเทรด จะได้รับกำไรมากกว่า 500 จุด แต่หากใช้เส้นแรก การเทรดยังคงดำเนินอยู่ บางครั้งในระหว่างการปิดการเทรดด้วยเส้นแนวโน้ม อาจพบกับการแตกโซนเท็จ (False Break) ดังนั้นในระหว่างการปิดการเทรดควรมีการปิดบ่อยๆ ไม่น้อยกว่า 2 แท่ง K ที่ปิดทะลุเส้นแนวโน้ม.

15. เส้นแนวโน้มสามเส้น

ในระหว่างการปิดการเทรดด้วยเส้นแนวโน้ม อาจประสบกับสามขั้นตอน ซึ่งถูกแสดงออกโดยเส้นแนวโน้มสามเส้นที่แตกต่างกัน ขั้นตอนแรกคือเส้นแนวโน้มหลัก (Main Trend Line) เมื่อราคาได้ห่างจากเส้นแนวโน้มหลัก สามารถวาดเส้นแนวโน้มลูก (Sub Trend Line) และในที่สุดเมื่อราคาได้ห่างจากเส้นแนวโน้มหลักจะวาดเส้นแนวโน้มสุดท้าย (Exhausted Trend Line) การใช้เส้นแนวโน้มสามเส้นมักจะมีโอกาสในการปิดการเทรดใกล้ยอด หรือจุดต่ำ แต่ในขณะนั้นไม่จำเป็นต้องรอราคาให้ปิดข้ามเส้นแนวโน้มแล้ว 2 แท่งขึ้นไป แค่หนึ่งแท่งก็พอ เพื่อป้องกันราคาที่อาจกลับตัวอย่างรวดเร็ว.

16. เส้นเฉลี่ยสูง/ต่ำ

การปิดการเทรดด้วยเส้นเฉลี่ยสูง/ต่ำจะต้องใช้เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่สองเส้น โดยทั่วไปแล้วเส้นเฉลี่ยจะใช้จากราคาปิด แต่ในกรณีนี้จะใช้ราคาสูงสุดและต่ำสุด โดยเส้นเฉลี่ยสองเส้นจะสร้างช่องที่ใกล้เคียงกับพฤติกรรมราคาหลักในภาพ เป็นเส้นเฉลี่ยราคาสูงสุด (สีน้ำเงิน) และต่ำสุด (สีแดง) ในช่วง 10 เวลาที่สร้างขึ้น ช่อง โดยเมื่อทำการขายสามารถใช้เส้นเฉลี่ยสีน้ำเงินในการย้ายหยุดขาดทุน ขณะทำการซื้อสามารถใช้เส้นเฉลี่ยสีแดงในการย้ายหยุดขาดทุนได้ การปิดการเทรดจะเกิดขึ้นเมื่อทะลุเส้นเฉลี่ย ขณะวาดเส้นเฉลี่ยสามารถใช้วิธีใดๆ เช่น ง่าย เรียบหรือถ่วงน้ำหนัก เป็นต้น จำนวนช่วงเวลาสามารถเริ่มต้นจาก 2 เพื่อทดสอบ จนกว่าจะพบค่าที่เหมาะสม.

คำเตือน

บทความที่เหลือต้องเข้าสู่ระบบเพื่ออ่านต่อ! กรุณาเข้าสู่ระบบเดี๋ยวนี้!