ก่อนที่เราจะทำการซื้อขาย เราต้องชัดเจนในทิศทางการลงทุนเสียก่อน เช่น ในกรณีที่เราใช้เงินยูโรเป็นตัวอย่าง เราจำเป็นต้องระบุว่าการซื้อขายครั้งนี้จะเป็นการซื้อหรือขายเงินยูโร โดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานที่ชี้ให้เห็นว่าเงินยูโรมีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต และข้อมูลเศรษฐกิจของดอลลาร์สหรัฐเชิงลบ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของทุนสำรองจากธนาคารกลาง ซึ่งสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของคู่เงินยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ ทางด้านเทคนิคเรามักจะดูจากกราฟรายวัน หากยูโร/ดอลลาร์สหรัฐสามารถทะลุผ่านแนวต้านที่ 1.3000 ได้อย่างรวดเร็ว นั่นหมายความว่าเราควรเลือกการซื้อลงทุนระยะกลางถึงยาวในยูโร
เมื่อเราได้ทิศทางที่ชัดเจนแล้ว เราต้องเลือกโอกาสที่เหมาะสมที่จะทำการซื้อขาย เช่น หากเรามีช่วงเวลาระยะกลางที่เป็นขาขึ้น แต่ระยะสั้นกลับอยู่ในช่วงลดลง เราควรเลือกที่จะกระทำการซื้อในระยะกลางหรืองานขายในระยะสั้น? คำถามนี้จะต้องได้รับการวิเคราะห์ในขั้นตอนที่สอง โดยโอกาสทั้งสองแบบอาจเกิดความขัดแย้งกันได้เมื่อมีสถานการณ์เกิดขึ้น ดังนั้นเมื่อความขัดแย้งนี้เกิดขึ้น ตามหลักการคือ ให้แน่ใจว่ากระแสระยะสั้นจะถูกควบคุมตามแนวโน้มในระยะยาว
การเลือกเวลาที่เหมาะสมในการเข้าตลาดมีความสำคัญในการลดความเสี่ยงในการดำเนินการ เพื่อให้เราสามารถบรรลุผลกำไรจากการลงทุนได้ เราควรตั้งค่าการเข้าซื้อขายโดยอิงจากกราฟ 4 ชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมงเพื่อหาตำแหน่งที่ดีสำหรับการเข้าซื้อ
เมื่อแผนการซื้อขายเบื้องต้นได้รับการพัฒนาแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือต้องทำการปรับแต่งแผนการซื้อขายให้สมบูรณ์ โดยปกติแล้วแผนการซื้อขายจะมี 3 องค์ประกอบพื้นฐาน ได้แก่ ราคาเข้า, ราคา Stop Loss และราคาเป้าหมาย เมื่อเรากำหนดสามระดับเหล่านี้ได้แล้ว จะช่วยเราให้ระบุแผนการที่เบื้องต้นได้
หลังจากแผนการเบื้องต้นถูกร่างออกมาแล้ว เราต้องพิจารณาอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง พิจารณาว่าโอกาสในการสร้างกำไรและขาดทุนมีสัดส่วนที่มากกว่า 2:1 หรือไม่ โดยแนะนำให้ใช้ 3:1 หรืออาจสูงกว่านั้น เพื่อสนับสนุนการดำเนินการในระยะยาวให้มีความมั่นคง
นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาการควบคุมตำแหน่งการลงทุน ว่าการลงทุนนี้เป็นการซื้อขายตามกระแสหรือการขายตรงข้าม และต้องพิจารณาด้วยว่ามีสัญญาณหรือรูปแบบชี้นำมากขึ้นหรือไม่ สังเกตว่าสัญญาณหรือรูปแบบเหล่านี้มีแนวโน้มไม่ดีหรือไม่ รวมถึงพิจารณามิติของการเก็งกำไรเพื่อกำหนดว่าควรจัดการตำแหน่งการลงทุนเป็นเท่าใด
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ นักลงทุนมักจะมองข้ามอันนี้ นั่นคือการเตรียมแผนสำรองสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด หลังจากเข้าตลาดแล้วการเคลื่อนไหวของราคาอาจไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ เมื่อเกิดความไม่สอดคล้องกันขึ้นจะชี้ให้เห็นถึงสถานะของตลาด เราต้องมีความสามารถในการคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น และเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิดในตลาดจะทำให้เราสามารถปรับเปลี่ยนแผนการซื้อขายได้อย่างทันท่วงที
2024-11-14
เรียนรู้เกี่ยวกับแนวคิดการลงทุนจากซอร์อส ผ่าน 12 ความจริงที่ส่งผลต่อการลงทุนในตลาดการเงิน
ซอร์อสการลงทุนตลาดการเงินกลยุทธ์การลงทุนความเสี่ยงการคาดการณ์ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา
เรื่องที่น่ารู้
Crescentcollege คือเว็บไซต์ที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทุกความเคลื่อนไหวในตลาดเหล่านี้
เราไม่สนับสนุนการชักชวนให้เทรดหรือการระดมทุนในทุกรูปแบบ เรามุ่งมั่นเป็นเพียงสื่อกลางในการแบ่งปันความรู้ที่เป็นประโยชน์เท่านั้น
**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกประเภทมีความเสี่ยง นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรควรทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนก่อนการซื้อขาย**
ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ Crescentcollege สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์
ติดต่อทางอีเมล: [email protected]
ติดต่อเพิ่มเติมทาง Line:
© 2024 Crescentcollege. สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามทำซ้ำ คัดลอก หรือเผยแพร่ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
เรานำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง โดยไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำการลงทุน
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น