การจัดการตำแหน่ง

จริง ๆ แล้วการจัดการตำแหน่งในตลาดฟอเร็กซ์อาจจะดูไม่ถูกต้องนัก เพราะที่ถูกต้องกว่าคือการตั้งจุดหยุดขาดทุน บางครั้งตลาดฟอเร็กซ์อาจมีการผันผวนอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น การเคลื่อนไหวของ USD/CHF ที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายพันจุด หากคุณมีเพียงหนึ่งในสิบของตำแหน่ง อาจจะทำให้คุณถูกเรียก margin หลายครั้ง

หาความเหมาะสมของวิธีการของตัวเอง

คุณควรรู้ว่าคุณกำลังทำการซื้อขายในมุมมองไหน เช่นการทำ arbitrage, การซื้อตลาดข้าม, สัญญาระยะกลางหรือระยะสั้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณรู้ว่าจะทำอะไร เมื่อมีการทำการซื้อขายควรมีความชัดเจนในรูปแบบของการทำธุรกรรมของคุณ

หลักการที่หนึ่ง: ตั้งจุดหยุดขาดทุน

คุณต้องตั้งจุดหยุดขาดทุนเสมอ ซึ่งเป็นเหมือนเข็มขัดนิรภัย นอกจากนี้จุดหยุดขาดทุนควรตั้งอยู่สูงกว่าหรือที่ต่ำกว่าจุดสูงสุดหรือต่ำสุดในช่วงก่อนหน้า และเมื่อคุณตั้งจุดหยุดขาดทุนแล้วอย่าไปแก้ไขอีก แค่ปล่อยให้ตลาดทำงาน ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงราคาอย่าให้คุณกลัวจนวิ่งออกจากตลาด

หลักการที่สอง: ขาดทุนสูงสุดในแต่ละวัน

ในการทำการค้า ควรพยายามลดขาดทุนและขยายกำไร โดยต้องติดตามจุดหยุดขาดทุนให้ดี เมื่อลงทุนขาดทุน ควรควบคุมขาดทุนให้อยู่ที่ไม่เกิน 4% ของเงินทุน เช่น ถ้าผิดพลาด 2 ออเดอร์ในวันเดียว คุณไม่ควรทำการค้าอีกในวันนั้น

หลักการที่สาม: กำหนดประเภทของการซื้อขาย

ในการทำการซื้อขายทุกครั้ง ต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าธุรกรรมเป็นแบบไหน คุณไม่ควรผสมสัญญาระยะสั้นกับระยะกลาง และควรมีความชัดเจนก่อนลงมือซื้อขายว่าธุรกรรมนี้มีคุณลักษณะอย่างไร

ความสามารถในการทำตามแผน

ความสามารถในการทำตามแผนคือการกระทำแบบไม่ต้องคิดมากในตลาดฟอเร็กซ์ ราคามักจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา คุณจะต้องมองหาโอกาสการซื้อขายที่มีความเสี่ยงต่ำและความน่าจะเป็นสูง เมื่อตรงตามเงื่อนไขเหล่านั้นให้ลงมือซื้อขายอย่างเด็ดขาด

อัตราส่วนกำไรขาดทุน

อัตราส่วนกำไรขาดทุนก็มีความสำคัญ ถ้าคุณตั้งจุดหยุดขาดทุนที่ 60 จุดและมีกำไร 30 จุด ก็จะไม่ทำให้คุณทำกำไรได้ในระยะยาว แม้ว่าจะดูดีในระยะสั้น ดังนั้นควรมองหาจุดหยุดขาดทุนและจุดเป้าหมายที่ดีที่สุด โดยอัตราส่วนอย่างน้อยควรต้องเป็น 1:1 เพื่อความสมดุล