สมมติฐานในการซื้อขาย

ทุกการซื้อขายมีสมมติฐานของตัวเอง เมื่อคุณต้องการสั่งซื้อ ในขณะนั้นสมองของคุณได้สร้างสมมติฐานขึ้นแล้ว สมมติฐานพื้นฐานของการซื้อขายคือสมมติฐาน! ไม่ว่าในตลาดจะมีผู้เทรดจำนวนมากแค่ไหน ในช่วงเวลาที่เปิดออเดอร์ทั้งหมดก็จะเป็นสมมติฐาน

สมมติฐานจุดเริ่มต้น

สมมติฐานนั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากการทำความเข้าใจกับการวิเคราะห์กราฟและความรู้สึกต่อการเคลื่อนไหวของราคา ซึ่งเป็นสัญญาณที่เกิดจากการตอบสนองต่อข้อมูลที่สะสมมานาน! ดังนั้น เมื่อมีสมมติฐาน ก็จะมีจุดบกพร่อง ดังนั้นการป้องกันสมมติฐานที่สำคัญที่สุดคือการตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) เพื่อทำให้การทำกำไรจาก "สมมติฐาน" มีความปลอดภัยมากขึ้น

องค์ประกอบของระบบสมมติฐานสามประการ

1. ความสามารถในการรับรู้กราฟ: ใช้ทักษะที่คุณเรียนรู้เพื่อค้นหาสัญญาณสมมติฐานในกราฟเรียลไทม์; 2. ความสามารถในการระบุแนวโน้ม: หลายคนเข้าใจทฤษฎีการวาดแนวโน้ม แต่สามารถวาดช่องทางที่มีประสิทธิภาพที่มีความหมายต่อการซื้อขายจริงได้; 3. ความสามารถในการใช้เส้นค่าเฉลี่ย: เปรียบเทียบกับตัวชี้วัดทางเทคนิค เส้นค่าเฉลี่ยมีความจริงใจมากกว่าเพราะไม่ถูกทำให้หลอกลวง และยังช่วยให้คุณแยกแยะทิศทางของแนวโน้มได้ดีขึ้น; 4. ความสามารถในการอ้างอิงตัวชี้วัด: ตัวชี้วัดไม่เหมาะสำหรับบอกแนวโน้ม แต่นำไปใช้ร่วมกับแนวโน้มได้

ขั้นตอนการตัดสินสมมติฐาน

1. สมมติฐานกราฟระยะยาว: การตัดสินการสนับสนุนและความต้านทานในแนวโนมหรือช่องทาง; 2. สมมติฐานกราฟระยะกลาง: การตัดสินการทะลุจุดวิกฤติที่สนับสนุนและความต้านทาน; 3. สมมติฐานกราฟระยะสั้น: การตัดสินการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มในระดับไมโครที่จุดวิกฤติ; 4. สมมติฐานการตั้งจุดตัดขาดทุน: เนื่องจากเป็นสมมติฐานจึงอาจมีข้อผิดพลาด ดังนั้นการตั้งจุดตัดขาดทุนจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการล้มเหลวของสมมติฐาน และการตั้งจุดตัดขาดทุนถือเป็นส่วนสำคัญของระบบการซื้อขาย ในการตัดสินสามจุดข้างต้น ตั้งค่าที่จุดที่คุณเห็นว่าสามารถรับได้ ซึ่งฉันตั้งไว้ที่ 25 จุด; 5. สมมติฐานการถือครอง: เมื่อคุณเริ่มทำกำไร คุณจะต้องพิจารณาว่าจะเพิ่มการลงทุนหรือปิดการทำกำไร ฉันมักจะตั้งจุดตัดขาดทุนกลับไปที่ราคาขายเมื่อมีกำไร 20 จุด หากแนวโน้มยังดำเนินต่อไปทางของฉัน ฉันจะพิจารณาดูสถานะจริงของแนวโน้มในการปรับตัวที่แตะเส้นค่าเฉลี่ยและลักษณะของแท่งเทียน ทั้งนี้การตั้งจุดตัดขาดทุนยังคงอยู่ที่ 20 จุด