1. เรียนรู้ทักษะ

คนเราควรมีทักษะเฉพาะตัวเพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและเลี้ยงดูครอบครัว เช่น นักวิเคราะห์ตลาด ช่างไฟฟ้า และอื่นๆ แต่เป็นนักเทรดที่สั้นนั้นไม่ควรเป็นเพียงแค่ นักวิเคราะห์ที่เขียนรายงานแต่ไม่สามารถทำกำไรจากการเทรดได้ ช่างไฟฟ้าสามารถหยุดน้ำไหลจากโถส้วมได้ทันทีเช่นเดียวกับการเทรดสั้นที่ควรจะต้องทำกำไรทันที หากไม่สามารถทำกำไรได้ก็ไม่ควรทำอย่างแน่นอน

2. ความสุขในการเทรด

หากรู้สึกว่าการเทรดสั้นนั้นไม่ง่าย หรือเป็นความเจ็บปวด ก็ไม่ควรทำ การเทรดสั้นที่เรียกว่า “การเทรดวัน” คือการเข้าสู่และออกจากตลาดในวันเดียวกัน ไม่ถือข้ามคืน ผู้ที่ถือครองระยะยาวมักจะเครียด แต่ผู้ที่เทรดสั้นสามารถนอนหลับได้อย่างสบาย

3. เข้าใจการวิเคราะห์ทางเทคนิค

จุดสำคัญอยู่ที่คำว่า “เข้าใจ” ถ้าเรียนรู้มากเกินไปก็ควรไปเป็นนักวิเคราะห์ แต่หากเรียนรู้เพียงวันเดียวก็สามารถทำการเทรดสั้นได้ สิ่งที่ควรเรียนรู้คือการดูเทรนไลน์ และการใช้ค่าเฉลี่ยระยะสั้น สิ่งที่เหลือคือดูดัชนีดอลลาร์และติดตามข่าวพื้นฐาน

4. ความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์

การเข้าใจโอกาสเป็นปัจจัยสำคัญในการทำกำไรจากการเทรดสั้น ลูกเต๋าหกหน้าถูกโยนแบบสุ่ม จำนวนคู่และจำนวนคี่จะมีสัดส่วนเป็นครึ่งต่อครึ่ง การเทรดสั้นมักแสดงถึงการขาขึ้นหรือลงที่มีสัดส่วนใกล้เคียงกัน หากเราทำกำไรในช่วงที่ชนะ 80 จุดและเสียในช่วงที่แพ้ 50 จุด การชนะและแพ้ในที่นี้คือ 100 ครั้ง สุดท้ายเราจะทำกำไรได้ 1500 จุด

5. ข้อควรระวังเมื่อลงทุน

เมื่อลงทุนหากทิศทางถูกต้องก็ควรให้มัน “วิ่ง” เพื่อทำกำไร แต่หากทิศทางผิดควรออกจากตลาดทันที ไม่มีเวลาในการตัดสินใจ เมื่อมีเหตุการณ์ใหญ่ในตลาดให้หลีกเลี่ยงการเทรด และที่สำคัญ การเทรดไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำทุกวัน นักเทรดสั้นก็อาจจะไม่เทรดทุกวัน ประเทศที่มีการประกาศอัตราดอกเบี้ยใหม่ในวันเดียวกันอาจจะไม่เหมาะสำหรับการเทรด ควรดูสถานการณ์อย่างรอบคอบ

การเทรดสั้นนั้นขึ้นอยู่กับจิตวิทยา อารมณ์ และความรู้สึก หากนักลงทุนคิดว่าวันนี้เหมาะที่จะเทรด ก็ไปทำการเทรดได้ อาจจะสร้างเงินเพื่อใช้จ่ายในสัปดาห์หน้า หรือค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในเดือนหน้า แต่การหวังที่จะทำกำไรเพียงอย่างเดียวจากการเทรดสั้นเพื่อซื้อบ้านหรูหรานั้นเป็นเรื่องที่ไม่สมจริง