การเข้าและออกจากการซื้อขาย

ในการทำธุรกรรมหนึ่งครั้งคุณต้องทำสองอย่าง คือ การเข้าไปทำธุรกรรม และ การออกจากการทำธุรกรรม การทำธุรกรรมจะทำให้ได้กำไรหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของจุดเข้าและจุดออก จุดเข้ามักเป็นส่วนที่หลายคนใช้เวลาและความพยายามศึกษามากที่สุด แต่ก็มักจะมองข้ามความสำคัญของการควบคุมจุดออกจริงๆ จุดออกมีความสำคัญเท่ากับจุดเข้าและควรมีการศึกษาอย่างละเอียด ในกระบวนการการซื้อขายของฉัน ฉันมีกฎเกณฑ์ในการกำหนดจุดออกอยู่สามแบบ:

สามสถานการณ์ในการกำหนดจุดออก

1. สัญญาณเบี่ยงเบนในกราฟระยะสั้น เช่น กราฟ 15 นาที หรือ 5 นาที ที่สร้างสัญญาณ MACD เบี่ยงเบน

2. เมื่อพบระดับแนวต้านที่สำคัญหรือแนวโน้ม

3. ความรู้สึกส่วนตัวว่าคุณได้กำไรแล้วและถึงเวลาปิดสถานะ

ตัวอย่างการปิดสถานะ

กราฟในวันนี้คือสิ่งที่ฉันพูดถึงในสถานการณ์แรก ซึ่งคือการปิดสถานะหลังจากสัญญาณเบี่ยงเบนระยะสั้น ฉันพบว่าในแนวโน้มระยะสั้นมากกว่า 80% (ทั่วไปจะหมายถึงในคืนเดียวหรือในช่วงบ่าย) เมื่อกราฟ 5 นาทีหรือ 15 นาทีสร้างสัญญาณเบี่ยงเบนที่ตรงกันข้ามกับทิศทางที่คุณเคยดำเนินการ นี่มักจะเป็นสัญญาณว่าการซื้อขายนั้นได้สิ้นสุดลง

การปรากฏตัวของสัญญาณนี้ยังประกาศจุดเริ่มต้นของการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่แนวโน้มที่น่าสนใจจะต้องรอการเปิดตลาดยุโรปในวันถัดไป ถึงแม้ว่าแนวโน้มครั้งนี้จะไม่สิ้นสุดตามเบี่ยงเบนดังกล่าว แต่คุณสามารถใช้มันเป็นสัญญาณในการปิดสถานะของคุณได้

เพราะถ้าคุณเข้ามาอย่างถูกต้องในช่วงเริ่มต้นของการซื้อขายเมื่อเกิดการเบี่ยงเบน นั่นคือสิ่งที่คุณจะได้รับตำแหน่งที่ดี แม้ว่าคุณจะไม่สามารถทำกำไรจากแนวโน้มนี้ได้ทั้งหมด แต่คุณก็ยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจพร้อมกับลดความเสี่ยงจากการซื้อขาย ดังนั้นการทำเงินพร้อมการป้องกันความเสี่ยงจะมีอะไรดีไปกว่านี้อีก?