ปัญหาที่มักถูกมองข้ามในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา

1. ต้นทุนการเทรด หรือ สเปรดการเทรด มักมีน้อยคนที่สนใจในเรื่องนี้ โดยมองว่าเป็นเพียงจุดเล็กน้อยที่ไม่น่ากังวล แต่ความคิดนี้นั้นผิด หากคุณต้องการอยู่ในตลาดนี้ในระยะยาวหรือทำอาชีพในด้านนี้ นี่คือปัญหาที่คุณไม่ควรมองข้าม การเทรดสี่ครั้งอาจดูไม่น่าหนักใจ แต่การเทรดหลายพันครั้งจะสร้างความเสียหายอย่างมองไม่เห็นได้มากมาย แนะนำ: ในการเลือกคู่สกุลเงินให้เน้นไปที่คู่ที่มีการเทรดตรงเพราะจะช่วยลดต้นทุนการเทรดและให้ข้อมูลต่างๆ ที่มีอยู่มากมายซึ่งมีประโยชน์ต่อการเติบโตสำหรับผู้เริ่มต้น

อัตราดอกเบี้ย

2. อธิบายเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องอธิบายมากนัก ถ้าคุณเป็นนักเทรดรายวันหรือระยะสั้นอาจไม่ต้องคิดมาก แต่ถ้าคุณเป็นนักเทรดระยะกลางหรือนาน คุณจะต้องพิจารณา หากคุณเปิดการขายในคู่สกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกับสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ อัตราดอกเบี้ยนี้จะทำลายกำไรของคุณมากมาย เหตุผลคือการเทรดที่ประสบความสำเร็จคือการเปลี่ยนการเทรดระยะสั้นให้เป็นระยะกลาง ดังนั้นควรทำการขายในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง และซื้อในสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ จะช่วยให้คุณไม่เพียงแต่ได้กำไรจากการเคลื่อนที่ของราคา แต่ยังได้รับรายดอกเบี้ยอีกด้วย

การเทรดบ่อยเกินไป

3. การเทรดบ่อยเกินไปถือเป็นลักษณะทั่วไปของผู้เริ่มต้น นักเทรดที่มีประสบการณ์จะค้นหาโอกาสที่แท้จริงและเข้าสู่ตลาดอย่างมีมั่นใจ แต่ผู้เริ่มต้นกลับเหมือนยุงที่บินไร้ทิศทาง การเทรดบ่อยไม่เพียงแต่เพิ่มต้นทุนการเทรด ยังสร้างความเครียดและความกดดันต่อจิตใจอีกด้วย สูตรในการเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จคือการพัฒนาทักษะในการจำกัดจำนวนครั้งของการเทรดและเตรียมกลยุทธ์ที่ดี

การวิเคราะห์และความคิดเห็นจากผู้อื่น

4. ผู้เริ่มต้นมักจะชอบค้นหาความคิดเห็นและวิเคราะห์การเทรดจากผู้เชี่ยวชาญ แล้วใช้งานโดยไม่คิดวิเคราะห์ พวกเขามักไม่เข้าใจว่าทำไมตำแหน่งนี้ถึงเป็นแนวต้านและทำไมจึงควรซื้อที่นี่และขายที่นั่น แนะนำ: คุณสามารถอ่านงานของพวกเขาได้ แต่ต้องเข้าใจว่าสิ่งที่อ่านต้องนำไปใช้กับการวิเคราะห์ของตัวเองด้วย

การใช้เทคนิคดัชนีที่ยุ่งยาก

5. ผู้เริ่มต้นเชื่อว่าการใช้ดัชนีมากมายจะทำให้วิเคราะห์ผลได้แม่นยำขึ้น แต่จริงๆ แล้วเป็นอย่างอื่น ดัชนีมีสองประเภทหลักคือ ดัชนีแนวโน้ม และดัชนีการแกว่งไส้ หากคุณใช้ดัชนีมากเกินไป มันอาจทำให้แพลตฟอร์มเทรดของคุณดูยุ่งเหยิง แนะนำให้ลดจำนวนดัชนีที่ใช้และเรียนรู้ที่จะวาดแนวโน้มด้วยตัวเอง

การเลือกช่วงเวลาในการเทรด

6. หลายคนมักจะใช้ช่วงเวลาเดียวเพื่อทำการเทรด โดยมองแค่กราฟ 15 นาทีหรือ 5 นาที ซึ่งทำให้พวกเขาสับสนกับการเคลื่อนที่ของราคา แนะนำให้ตั้งค่าช่วงเวลาที่รวมกัน เช่น 15 นาที + 4 ชั่วโมง + รายวัน เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ราคาที่แม่นยำขึ้น

การตั้งจุดหยุดขาดทุนที่ผิดพลาด

7. สุดท้าย การหยุดขาดทุนถือเป็นการปกป้องความเสี่ยงที่สำคัญ ผู้เริ่มต้นหลายคนมักจัดการเรื่องนี้ไม่ดี จึงควรมีการตั้งจุดหยุดขาดทุนที่เหมาะสม เช่น การหยุดขาดทุนตามตำแหน่ง ราคาแบบตายตัว การหยุดโดยการไล่ตามราคา เป็นต้น