แนวคิดทั่วไป

ในมุมมองของนักเทรด Forex หลายคน การเทรดภายในวันที่ดีนั้นมักจะต้องใช้หน้าจอถึง 4 จอ หนึ่งในนักเทรดมืออาชีพเคยกล่าวว่าสามารถใช้หน้าจอ 3 จอเรียงอยู่บนโต๊ะซื้อขาย และอีกหนึ่งจอวางสูงขึ้นมา หน้าจอ 3 จอแรกมีขนาด 20 นิ้ว และหน้าจอสุดท้ายมีขนาด 14 นิ้ว (คุณอาจรู้สึกว่ามันน่าประทับใจมาก) มีคนที่เชื่อว่าการมองไปที่หน้าจอห้าหรือหกจอที่แสดงข้อมูลหรือกราฟที่แตกต่างกันนั้นช่วยให้รู้สึกเหมือนว่าตนเองควบคุมตลาดได้ และรู้สึกเหมือนว่าอาวุธแห่งชัยชนะอยู่ในมือของตน

ความสำเร็จในการเทรด

อย่างไรก็ตาม ผมต้องบอกว่า หากอยากประสบความสำเร็จในการเทรดภายในวัน คุณต้องการหน้าจอเพียงแค่ 1 จอเท่านั้น ในภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับวอลล์สตรีทหรือข่าวเศรษฐกิจ เรามักจะเห็นภาพของนักเทรดที่มีหน้าจอมากกว่า 20 จออยู่ตรงหน้าให้เห็น ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือ “เจ๋งมาก… เจ๋งมาก… สุดยอด!” แต่ในความเป็นจริง ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้มีความจำเป็นอย่างไร เพราะการมีหน้าจอมากมายก็ต้องใช้สายตาจำนวนมากในการเฝ้าระวัง

การพัฒนาเทคโนโลยี

บริษัทการค้ารายหนึ่งเคยแนะนำสถานการณ์ของหน้าจอในโต๊ะทำงานของนักเทรดในทั่วโลก โดยที่นักเทรดจะใช้หน้าจอตั้งแต่ 8 จอไปจนถึงแค่แล็ปท็อป 1 เครื่อง ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์และประเภทการซื้อขายของแต่ละคน ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยี แพลตฟอร์มการซื้อขายมีฟังก์ชันการทำงานที่ดีเยี่ยมมากมาย แนวคิดของเครื่องมือหน้าต่างยังช่วยให้นักเทรดสามารถเฝ้าระวังข้อมูลหลายชนิดบนหน้าจอเดียว

ทำไมต้องมีหลายหน้าจอ

ด้วยเหตุนี้ หน้าจออื่นๆ นอกเหนือจาก 1 จอจึงกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เมื่อเทคโนโลยีการซื้อขายพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เรามั่นใจว่าใช้เพียง 1 จอเท่านั้นก็พอ และยังสามารถลดการถูกรบกวนจากโลกภายนอกอีกด้วย เราเห็นการสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้ในฟอรัม Forex บางแห่ง โดยมีคนกล่าวอย่างขำขันว่า “ผมใช้หน้าจอทั้งหมดสามจอ จอซ้ายดูกราฟราคา จอขวาดูข่าว ข้อมูลเศรษฐกิจและการทำการสั่งซื้อ ส่วนจอกลางใช้สำหรับดูหนัง”

การเพิ่มประสิทธิภาพ

ดังนั้น ทำไมเราถึงไม่ทำให้หน้าจอเดียวมีฟังก์ชันสามอย่างล่ะ? เช่น กำหนดให้จอซ้ายเป็น “รายการราคา” จอกลางเป็น “กราฟราคา” และจอขวาเป็นกราฟของประเภทการลงทุนเดี่ยวที่สามารถสลับได้ตลอดเวลา ด้วยวิธีนี้ อาจช่วยให้คุณเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขายหรืออัตราชนะได้ ในบางครั้ง น้อยดีกว่าเยอะและเลอะเทอะ