การเทรดฟอเร็กซ์ ขนาดบัญชีเล็กสามารถทำกำไรได้อย่างมั่นคง จะเพิ่มขนาดล็อตได้อย่างไร?

สำหรับคำถามนี้ ตอบได้ดังนี้:

1. ขนาดล็อตขยายและขนาดล็อตลด

หลังจากที่ทำการเทรดแล้วมีผลกำไรในบัญชีมากขึ้น หากยังคงรักษาขนาดตำแหน่งการเทรดไว้เหมือนเดิม ก็เท่ากับลดเลเวอเรจลง ทำให้ประสิทธิภาพในการใช้ทุนต่ำลง ดังนั้นในเวลานั้นจำเป็นต้องขยายขนาดล็อต ซึ่งในทางกลับกัน หากเกิดการขาดทุนอย่างต่อเนื่องและมียอดเงินในบัญชีลดลง หากยังคงรักษาขนาดตำแหน่งการเทรดไว้จะทำให้เลเวอเรจใหญ่ขึ้น ทำให้เพิ่มความเสี่ยงของเงินทุน ดังนั้นจึงต้องลดขนาดล็อต การขยายล็อตมีความหมายคือ ในสภาวะการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง จะสามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรให้สัมพันธ์กับอัตราการเติบโตของทุน แต่ถ้าไม่ขยายล็อต ความสามารถในการทำกำไรจะสัมพันธ์กับผลกำไรเพียงเท่านั้น

2. ข้อกำหนดในการใช้ขนาดล็อตขยายและล็อตลด

เมื่อการเทรดของคุณสามารถทำผลตอบแทนที่เป็นบวกภายใต้ความเสี่ยงที่จำกัดและควบคุมได้ ขนาดล็อตขยายและล็อตลดจึงมีความหมาย หากการเทรดของคุณมีผลลบ คุณจะไม่สามารถขยายล็อตได้และจะต้องลดล็อตจนถึงขนาดการเทรดที่ต่ำสุด นอกจากนี้ ความเสี่ยงที่คุณรับต้องเป็นความเสี่ยงที่จำกัดและสามารถควบคุมได้ เช่น จุดหยุดขาดทุนที่ต้องกำหนดไว้อย่างแน่นอน หากคุณไม่มีแนวคิดเกี่ยวกับจุดหยุดขาดทุน หรือทุกครั้งที่ขาดทุนมีจำนวนมากน้อยไม่แน่นอน จะไม่สามารถใช้ขนาดล็อตขยายและล็อตลดได้

3. การกำหนดขนาดล็อต

ทั่วไปแล้ว เมื่อเราต้องเปิดบัญชีและเตรียมการเทรด เราจะต้องกำหนดขนาดล็อตก่อน โดยใช้การเทรดฟอเร็กซ์เป็นตัวอย่างการคำนวณ เช่น ถ้าฉันมีเงินในบัญชีเริ่มต้น 10,000 ดอลลาร์ ระบบการเทรดของฉันมีเงื่อนไขดังนี้: 1. ขนาดจุดหยุดขาดทุนเฉลี่ย 100 จุด; 2. ยอมให้ขาดทุนติดต่อกัน 20 ครั้ง (เทียบเท่ากับการขาดทุน 5% ต่อตลาด)

4. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการขยายล็อตและลดล็อต

ดังนั้น ฉันควรขยายล็อตและลดล็อตเมื่อใด? โดยทั่วไปมีสองวิธี วิธีแรกคือการตั้งค่าช่วงเวลาคงที่ เช่น ทุกวัน ทุกเดือน ทุกไตรมาส หรือทุกปี ถ้าเป็นการเทรดระยะสั้นมากสามารถเลือกช่วงเวลาสั้น หากเป็นระยะกลางถึงยาวสามารถเลือกช่วงเวลาที่ใหญ่ขึ้น

5. การคำนวณขนาดล็อตและข้อควรระวัง

ทั่วไปแล้ว การคำนวณขนาดล็อตขยายและขนาดล็อตลดมีวิธีการเดียวกันกับ "การกำหนดขนาดล็อต" แต่มีข้อควรระวังที่ควรพิจารณา หลังจากการขยายล็อตหรือลดล็อตเมื่อใดก็ตาม ยอดเงินในบัญชีมักจะไม่พอดีกับจุดแบ่งตามที่ตั้งไว้ โดยปกติยอดเงินที่เพิ่มขึ้นจะเกินจุดแบ่ง และยอดเงินที่ลดลงจะแสดงให้เห็นว่าต่ำกว่าจุดแบ่ง

6. สถานการณ์หลายผลิตภัณฑ์และหลายกลยุทธ์

ตราบใดที่เราพูดถึงขนาดล็อตและการขยายล็อตและลดล็อตของผลิตภัณฑ์กลยุทธ์เดียว แต่ในการเทรดจริงๆ มักจะเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หลายประเภทหรือแม้กระทั่งหลายกลยุทธ์ และสิ่งนี้อาจทำให้สถานการณ์ซับซ้อน ฉันจะแจ้งให้คุณทราบถึงข้อควรระวังทั่วไป

7. ลดเลเวอเรจอย่างพอเหมาะ

เมื่อเงินทุนเติบโตขึ้นถึงระดับหนึ่ง หรือการเพิ่มเงินทุนรวดเร็วเกินไปทำให้รู้สึกว่าควบคุมไม่ไหว ต้องชะลอการขยายในส่วนนี้

8. การจัดการขนาดล็อตและการวิเคราะห์ทางเทคนิค

เนื่องจากกลยุทธ์การเทรดส่วนใหญ่พัฒนาขึ้นจากการวิเคราะห์ทางเทคนิค จึงมีแนวทางว่าควรจะใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อกำหนดขนาดล็อตหรือไม่? คำแนะนำของฉันคือไม่จำเป็น ในด้านการจัดการขนาดล็อต ต้องตั้งจุดหยุดขาดทุน ควบคุมจุดหยุดขาดทุน การควบคุมเลเวอเรจสูงสุด และจำนวนครั้งที่ขาดทุนที่ตั้งไว้ล่วงหน้า