ความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการวิเคราะห์พื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค

นักลงทุนจำนวนมากมีความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการวิเคราะห์พื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค ในตลาดแลกเปลี่ยนหรือหุ้น การวิเคราะห์ทั้งสองประเภทเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เพื่อที่จะเห็นภาพที่แท้จริงของตลาด

การวิเคราะห์พื้นฐานในตลาดแลกเปลี่ยน

การวิเคราะห์พื้นฐานในตลาดแลกเปลี่ยนคือกระบวนการในการเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทานของสกุลเงินเป้าหมาย เหรียญคือสินค้าประเภทหนึ่ง ซึ่งสามารถลดลงได้หากมีอุปทานมากเกินไป และในทางตรงกันข้าม หากอุปสงค์มีมากกว่าจะทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น ในเมื่อความสัมพันธ์นี้เข้าใจง่าย เราจึงควรศึกษาเรื่องดังต่อไปนี้: 1. ความสัมพันธ์ด้านอุปทาน, 2. ความสัมพันธ์ด้านอุปสงค์, ปัญหาอื่นๆ ไม่จำเป็นต้องสนใจ

การศึกษาอุปทาน

ความสัมพันธ์ด้านอุปทานไม่ยากที่จะเข้าใจ เพียงแต่ดูเว็บไซต์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งมีการรายงานข้อมูลทุกเดือน หากอุปสงค์ต่อดอลลาร์ไมเปลี่ยนแปลงและธนาคารกลางเริ่มเพิ่มปริมาณเงินที่มีอยู่ จะมีผลต่อสองตลาด: ตลาดหุ้นจะเพิ่มขึ้น และดอลลาร์จะอ่อนค่าลง หากควบคุมปริมาณเงินจะทำให้ดอลลาร์คงที่หรือเพิ่มขึ้น เวลาที่ใช้ในการตอบสนองประมาณ 2 เดือน กล่าวคือ ความเร็วของตลาดในการตอบสนองนั้นช้ากว่าการเปลี่ยนแปลงปริมาณเงิน 2 เดือน ดังนั้นการศึกษาเกี่ยวกับปริมาณเงินทุกเดือนจึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนในตลาดการเงินต้องทำเป็นอันดับแรก

การศึกษาอุปสงค์

เมื่อเราทราบถึงปริมาณอุปทานแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการศึกษาอุปสงค์ ซึ่งค่อนข้างยุ่งยากเพราะต้องศึกษาหลายประเด็น อุปสงค์ของสกุลเงินในประเทศหนึ่งขึ้นอยู่กับความน่าดึงดูดของสกุลเงินนั้น โดยดูจาก: 1. ศักยภาพในการเพิ่มค่า 2. แนวทางของอัตราดอกเบี้ยจริง เพื่อให้เข้าใจถึงอนาคตของสกุลเงิน เราต้องมองไปที่อนาคตของสินทรัพย์ของสกุลเงินนั้นเอง

การประเมินความน่าดึงดูดของสกุลเงิน

ศักยภาพความเพิ่มค่าของสินทรัพย์นั้นสามารถมองเห็นได้จากความเป็นไปได้ของตลาดหุ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ หรือพันธบัตรในประเทศ กล่าวคือ หากภาพรวมเศรษฐกิจดี จะมีโอกาสในการเพิ่มค่า หากอัตราดอกเบี้ยจริงเพิ่มขึ้น อุปสงค์จะเพิ่มขึ้น และสกุลเงินของประเทศนั้นก็มีศักยภาพในการเพิ่มค่า นอกจากนี้ยังต้องดูภาพรวมเศรษฐกิจ รวมถึงอัตราการจ้างงาน สถานการณ์การว่างงาน ผลผลิตของประชาชน เสถียรภาพของรัฐบาล การค้า การหมุนเวียนของอัตราดอกเบี้ย และการไหลเข้าของทุนต่างประเทศ เป็นต้น

พื้นฐานของการวิเคราะห์พื้นฐาน

เมื่อเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทานแล้ว เราจะมีแนวรู้เกี่ยวกับทิศทางในระยะกลางถึงระยะยาว นี่คือความจำเป็นพื้นฐานของการวิเคราะห์พื้นฐานที่สำคัญ

พื้นฐานการวิเคราะห์ทางเทคนิค

พื้นฐานของการวิเคราะห์ทางเทคนิคคือ "เนื่องจากในอดีตมีกราฟหรือข้อมูลทางเทคนิคต่าง ๆ ที่พัฒนาไปเป็นผลลัพธ์ดังกล่าว ดังนั้นในปัจจุบันกราฟที่คล้ายกันจึงอาจพัฒนาไปเป็นผลลัพธ์เช่นเดียวกับในอดีต" นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญบางคนที่เชื่อว่าสิ่งต่าง ๆ ล้วนสะท้อนอยู่ในราคา โดยไม่ต้องศึกษาอย่างอื่น แค่ศึกษาราคาและกราฟหรือดัชนีบางอย่างก็เพียงพอ ในตลาดแลกเปลี่ยนนี้นักลงทุนส่วนใหญ่คือกลุ่มที่มีความเชื่อเช่นนี้

เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

การวิเคราะห์ไม่สามารถคาดการณ์เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในระยะสั้น/ระยะกลาง/ระยะยาวได้ เช่น แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น เหตุการณ์ 911 หรือการแทรกแซงของธนาคารกลาง การประกาศข้อมูล เป็นต้น นักลงทุนรายใหญ่บางคนใช้ข้อมูลเพื่อต่อสู้กับเหตุการณ์เหล่านี้ ในขณะที่นักลงทุนรายย่อยต้องตามตลาดไปเพียงอย่างเดียว

การรวมกันของการวิเคราะห์พื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค

อย่างไรก็ตาม ในตลาดการลงทุนคุณต้องทำตามแนวโน้มเพื่อให้ได้กำไร กล่าวโดยง่ายคือ การวิเคราะห์พื้นฐานชี้ให้เห็นทิศทาง และการวิเคราะห์ทางเทคนิคชี้ให้เห็นถึงเส้นทางที่ซับซ้อนที่ต้องทำตามในการก้าวไปข้างหน้า การรวมกันของการวิเคราะห์พื้นฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิคสามารถเพิ่มอัตราความแม่นยำในการทำนายแนวโน้มได้