การลงทุนมิใช่เรื่องของผลสำเร็จในระยะสั้น

การลงทุนไม่ดูจากผลสำเร็จในระยะสั้น แต่ดูจากความมั่นคงในระยะยาว ในการลงทุนต้องมีความอดทน ผู้ที่รีบร้อนมักจะมีโอกาสล้มเหลว สำหรับผู้ที่รีบร้อนมักจะพบกับความล้มเหลว ในการลงทุนเปรียบเสมือนการขึ้นรถ หากมีความรีบร้อนแล้วกลัวจะไม่ทันรถพอปีนขึ้นรถได้ หากมีการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ก็อาจจะพลัดตกลงมา หลังจากตกลงไปจะไม่สามารถขึ้นมาได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

ความรีบร้อนและการขาดความอดทน

ความรีบร้อนและการขาดความอดทนเป็นความผิดปกติทั่วไปของนักลงทุนหลายคน จุดประสงค์หลักในการลงทุนคือการทำเงิน การที่มีความอยากรวยและรีบร้อนเงินนั้นเข้าใจได้ แต่ปัญหาคือความรีบร้อนนี้ไม่ได้ช่วยอะไร อาจจะส่งผลเสียต่อตัวเรา “เร็วคือช้า ช้าคือเร็ว” คำกล่าวนี้มีความจริงอยู่มาก ความรีบร้อนคือความเข้าใจผิดทางจิตวิทยาที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการลงทุน ในขณะที่ความอดทนคือคุณสมบัติที่ดีที่สุดของนักลงทุน เป้าหมายของการลงทุนคือการมองไปที่ผลกำไรในอนาคต การลงทุนย่อมมีปัจจัยเรื่องเวลา ซึ่งต้องการเวลาและความอดทนจากเรา การทดลองแสดงให้เห็นว่าการรีบทำกำไรโดยการซื้อขายที่รุนแรงนั้นมีโอกาสที่จะไม่ประสบผลสำเร็จมากนัก

โอกาสในการลงทุน

“โอกาสไม่มีซ้ำในตลาดหุ้น” ประโยคนี้ไม่สามารถใช้ได้กับตลาดหุ้น ตลาดยังมีโอกาสเสมอ และในแต่ละช่วงเวลาตลาดมักจะมีจุดร้อนต่างๆ แตกต่างกันไป การพลาดโอกาสหนึ่งนั้นไม่สำคัญ ยังคงมีโอกาสต่อไปให้รออยู่ เมื่อคุณรู้สึกเสียใจที่พลาดหุ้นที่ดีอยู่ แท้จริงแล้วอาจมีการตลาดที่ดีเกิดขึ้นแล้ว ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการขาดโอกาสในการเพิ่มขึ้น โอกาสมีอยู่ทุกวัน โอกาสเป็นสิ่งที่หมุนเวียน

การศึกษาและการวิเคราะห์

ในการลงทุนต้องอาศัยการคว้าโอกาส โอกาสนั้นมีคุณค่าที่จะไม่มากเกินไป เนื่องจากไม่มีใครที่สามารถชนะ 100% ทุกครั้ง ผลกำไรเกิดจากอัตราความสำเร็จที่สูงกว่า ดังนั้นการวิเคราะห์และการศึกษาก่อนการลงทุนมีความสำคัญกว่าการลงทุนเอง บางครั้งการวิเคราะห์อาจทำให้ดูเหมือนพลาดโอกาส แต่ไม่เป็นไร ความจริงก็คือเราไม่สามารถคว้าโอกาสทุกอย่างได้ สิ่งที่สำคัญคือเราควรทำให้ดีที่สุดในการคว้าโอกาสของเรา

พฤติกรรมการลงทุนที่ฟุ่มเฟือย

พฤติกรรมฟุ่มเฟือยมักจะส่งผลให้เกิดความผิดพลาดสองประเภทในการดำเนินการ คือ:

1. การลงทุนด้วยจำนวนเงินที่มากเกินไป
สาเหตุเนื่องจากไม่มีความอดทนในการถือครองหรือขาย เมื่อขายหรือซื้อแล้วกลับรู้สึกเสียใจ มักจะถูกกระตุ้นจากอารมณ์รอบข้างหรือข่าวสารที่ไม่แน่นอน จึงทำให้ตัดสินใจแบบไม่ระมัดระวัง ในทางปฏิบัติแล้ว บางครั้งการตัดสินใจอย่างรีบร้อนอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย และอาจไม่ได้รับชัยชนะ ดังนั้นจึงเป็นการขัดแย้งกับหลักการในการทำกำไร

2. กระบวนการในกรณีซื้อขายกลายเป็นไม่สมเหตุสมผล
เมื่อมีเงินสดผู้ลงทุนมักจะกลัวการพลาดโอกาสและรีบซื้อ และเมื่อหุ้นถึงจุดมุ่งหมายกลับไม่ยอมขาย กลัวจะพลาดโอกาสในการเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ซื้ออย่างรวดเร็วและขายอย่างไม่แน่นอน ซึ่งขัดแย้งกลับกับหลักการ “ซื้อควรระมัดระวัง ขายควรเด็ดขาด”

การลงทุนต้องมีความอดทนและความเด็ดขาด

ดังนั้นการลงทุนมิใช่เพียงแต่การทดสอบความอดทนเท่านั้น แต่บางครั้งยังต้องทดสอบความเด็ดขาดและการตัดสินใจในช่วงเวลาแห่งโอกาส นักลงทุนต้องหาจุดสมดุลระหว่างความอดทนและความเด็ดขาด ในช่วงเวลาที่ต้องอดทนต้องไม่เคลื่อนไหว ในช่วงเวลาที่ต้องการดำเนินการ ควรจะมีความเด็ดขาดที่ชัดเจน