การวิเคราะห์ปริมาณการซื้อขาย

กราฟ K ระยะเวลา 5 นาทีที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดใช้เป็นเกณฑ์ เช่น หากราคาอยู่เหนือระดับราคาหลังเปิดตลาด 5 นาทีให้ทำการซื้อ หากอยู่ด้านล่างให้ทำการขาย จนกว่าจะมีปริมาณการซื้อขายจำนวนมากเป็นตัวกำหนดราคาอีกครั้ง อาจมีทิศทางใหม่เกิดขึ้น กล่าวคือ หากมีการเพิ่มปริมาณการซื้อขายและราคาหยุดตก ราคาจะต้องหยุดการตกลงได้ และหากมีการเพิ่มปริมาณการซื้อขายแต่ไม่สามารถดันราคาให้สูงขึ้นได้ อาจทำให้ราคาขึ้นถึงจุดสูงสุดได้

ความแตกต่างในการวิเคราะห์ระหว่างราคาเพิ่มและลด

กระบวนการขึ้นและลงนั้นต้องการความแตกต่างในปริมาณการซื้อขาย ในการขึ้นราคาต้องมีการเพิ่มปริมาณการซื้อขายอย่างสมดุลในกราฟ K 5 นาที หากปรากฏว่ามีการลดปริมาณการซื้อขายลงอย่างมาก อาจเป็นสัญญาณว่าราคาจะหยุดการเพิ่ม; ในขณะที่การลดจะแค่ต้องมีการเพิ่มปริมาณเมื่อราคาลดลงใต้ระดับสำคัญ ราคาลดลงจะยังคงดำเนินต่อไป

การทำงานด้วยข้อมูลการถือครอง

เมื่อต้องการพิจารณาการถือครอง ให้พิจารณาบริเวณที่มีการเพิ่มการถือครองในช่วงเช้า หากมีการเพิ่มการถือครองเยอะในช่วงเช้า ให้ใช้บริเวณนี้เป็นเกณฑ์ การที่ราคาขึ้นเหนือบริเวณนี้ทำให้ง่ายต่าการเพิ่มราคา ในขณะที่ราคาต่ำกว่าจะทำให้ราคาลดลงได้

การวิเคราะห์สภาวะของตลาด

ในแนวโน้มตลาดที่รวบรวมข้อมูลเช่นราคา ควรเปิดสัญญาเมื่อราคาห่างจากราคากลาง ในตลาดที่มีแนวโน้มควรทำตรงกันข้าม หากราคาอยู่เหนือเส้นเฉลี่ยเมื่อมีการกลับมาใกล้เส้นเฉลี่ยให้ซื้อ และทำการขายในราคาที่ไม่ต่ำกว่าเส้นเฉลี่ย

การระบุระยะสั้นและตลาดที่มีแนวโน้ม

เราสามารถใช้ปริมาณการซื้อขายอธิบายว่าเป็นแบบใด เมื่อเริ่มต้นกับการติดตามตัวเลขการถือครอง มีการเพิ่มการถือครองในระดับต่ำ และราคาขึ้นอยู่เหนือบริเวณนี้เราสามารถทำการซื้อ ที่ระดับสูงการเพิ่มการถือครองในราคาอาจหยุดการขึ้น ราคาที่อยู่ในบริเวณลดลงอาจทำให้ราคาลดลงได้

การวิเคราะห์รูปแบบการซื้อขาย

การแก้ไขรูปแบบ เช่น สามเหลี่ยม การลดขนาดทางการตลาด เมื่อเข้าไปในตลาดต้องพิจารณาโครงสร้างใหญ่ เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการลงมือที่มีประสิทธิภาพหลังจากที่ทราบแน่ชัด

บทสรุปและการตั้งค่า Stop-Loss

ในการเลือกเวลาโดยอิงจากรูปแบบเล็ก ๆ ความเสี่ยงการหยุดจะต้องคำนึงถึงการกำหนดจุดหยุดควรอยู่ใกล้จุดสูงสุดหรือต่ำสุด ซึ่งการใช้กำหนดหยุดที่สัมพันธ์กับโครงสร้างใหญ่จะทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น