แนวคิดของแนวรับและแนวต้าน

แนวรับและแนวต้านเป็นแนวคิดพื้นฐานสำหรับกลยุทธ์การเทรดเกือบทั้งหมด ซึ่งมีพื้นฐานจากจิตวิทยาที่ลึกซึ้งและพฤติกรรมของตลาด แม้ว่าคุณอาจไม่เข้าใจเหตุผลทั้งหมด การยอมรับจากนักเทรดส่วนใหญ่ทำให้แนวรับและแนวต้านกลายเป็นกลไกที่คล้ายคลึงกับการบรรลุเป้าหมาย การขัดแย้งระหว่างความวิตกกังวลของผู้ซื้อและผู้ขายทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มของรอบ ซึ่งมักเกิดขึ้นใกล้กับแนวรับและแนวต้าน อย่างไรก็ตาม ทุกคนมีความเข้าใจและการประยุกต์ใช้แนวรับและแนวต้านที่แตกต่างกัน หากคุณไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจนในการวาดแนวรับและแนวต้าน คุณอาจหลงทางในโลกของการวิเคราะห์ทางเทคนิค

การนิยามแนวรับและแนวต้าน

แนวรับและแนวต้านหมายถึง จุดที่ราคามีแนวโน้มที่จะไม่ทะลุหรือลดลง ซึ่งอาจจะมีลักษณะเป็นระดับแนวนอนหรือเอียง เรามักจะพูดถึงจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด ซึ่งก็แสดงถึงแนวต้านและแนวรับเช่นกัน ยิ่งแนวรับและแนวต้านถูกสัมผัสและลดลงมากเท่าใด ตำแหน่งนั้นจะยิ่งสำคัญมากขึ้น

การวาดระดับแนวรับและแนวต้าน

เมื่อเรานำแนวรับและแนวต้านมาเป็นตัวชี้วัดหลัก ถ้าเรายังไม่สามารถกำหนดราคาที่ชัดเจนได้ กฎการเปิดหรือปิดการเทรดจะไม่ชัดเจน เช่น กฎหนึ่งคือ เปิดการซื้อเมื่อราคาทะลุแนวรับ นักเทรดมือใหม่มักชอบเขียนกฎแบบนี้ และเมื่อผมถามว่า “คุณวาดแนวรับอย่างไร” คำตอบจะอยู่ที่ว่า วาดจากราคาสูงสุดหรือต่ำสุด วาดจากราคาปิดหรือเปิด อาจจะเป็นคำสั่งในแนวรับ หรือราคาปิดเข้าไปแล้ว แล้วการทะลุถูกคำนวณอย่างไร เส้นตัดกันก็ถือว่าเป็นการทะลุใช่ไหม? แม้ว่าแถบแนวรับและแนวต้านจะเป็นพื้นที่ แต่เมื่อพูดถึงการกระทำในตำแหน่งการซื้อขายจริง เราต้องเฉพาะเจาะจงไปที่ราคา จะต้องไม่ใช่แค่พื้นที่อีกต่อไป แต่ต้องเป็นเส้น

หลักการของแนวรับและแนวต้าน

ตลาดมีผู้เล่นสามประเภท: ผู้ซื้อ, ผู้ขาย และผู้ที่ไม่มีตำแหน่ง ในเมื่อคุณเป็นผู้ที่ไม่มีตำแหน่งและต้องการซื้อ เมื่อราคาถึงจุด B คุณอาจต้องการให้ราคายังคงลดลง ดังนั้นจึงไม่ซื้อ ณ จุดนี้ เมื่อราคาเพิ่มขึ้นไปยังจุด A คุณจะเริ่มรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ซื้อที่ B ซึ่งถ้าหลังจากนี้ราคาลงไปที่ B อีกครั้ง คุณอาจจะซื้อจริง เพราะ B เป็นราคาที่ชัดเจน สำหรับคุณ เห็นได้ชัดว่าหลายคนจะซื้อในตอนนี้ทำให้ราคาขึ้นไป

การสลับบทบาทระหว่างแนวรับและแนวต้าน

เมื่อราคาทะลุแนวต้านจนถึงจุด G ผู้ที่เคยอยู่ในตำแหน่งการขายอาจรู้สึกว่าตนได้เลือกทีมผิด ผู้เล่นหลายคนคิดว่าเมื่อราคาทะลุไปยังบริเวณใกล้จุดต้นทุน ก็ต้องหยุดการขายทันที แต่เมื่อพวกเขาเห็นราคาขึ้นไปถึงจุด H ก็จะมีการปิดตำแหน่งการขายจำนวนมากทำให้ราคาขึ้น หากมองในด้านของเทรดเดอร์ที่เคยอยู่ในตำแหน่งการซื้อทางจิตใจพวกเขาจะรู้สึกดีใจที่ได้ยินข่าวราคาถึงจุด H ซึ่งพวกเขาจะเข้าซื้อและย้ายจุดหยุดการขาดทุนให้อยู่ต่ำกว่าแนวต้าน

การวาดโซนการรวมตัว

โซนการรวมตัวประกอบด้วยเส้นแนวต้านแนวนอนและเส้นแนวรับแนวนอน เป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมที่มีความสูงและความยาว ต้องการให้ราคาสัมผัสแนวต้านอย่างน้อย 2 ครั้งและแนวรับอีก 2 ครั้ง โดยการสัมผัสแต่ละครั้งจะต้องไม่ชิดกันเกินไป กรณีที่ชิดกันมากจะถือเป็นครั้งเดียว

กลยุทธ์การซื้อขายที่ได้จากโซนการรวมตัว

กลยุทธ์การซื้อขายจากโซนการรวมตัวที่สำคัญคือ หากตลาดทะลุจุดที่ไม่เคยทะลุมานาน แนวโน้มจะมีแนวโน้มที่จะทบทวนต่อไปในทิศทางนั้น