จิตวิทยาการซื้อขาย

ในอุตสาหกรรมการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตรานี้ ฉันคิดว่าการเน้นย้ำด้านจิตวิทยามันไม่เคยพอ แต่โปรแกรมการฝึกอบรมการซื้อขายมีน้อยมากที่สามารถช่วยเพิ่มทักษะด้านจิตใจของผู้ค้าได้อย่างแท้จริง ในมุมมองของฉันสูตรการซื้อขายคือ: 60% จิตวิทยา + 30% การบริหารจัดการเงิน + 10% กลยุทธ์

จิตวิทยาของนักเทรด

ที่ต้องรู้คือเราทุกคนเป็นสัตว์ที่มีอารมณ์ ไม่มีผิดแม้แต่คุณ ผู้ชายก็ร้องไห้ได้ การซื้อขายแทบเป็นดินแดนของผู้ชาย ในอุตสาหกรรมนี้ ความหยิ่งยโสของผู้ชายจะถูกเปิดเผยอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะซื้อขายด้วยเงินสิบดอลลาร์หรือหลายล้านดอลลาร์ อารมณ์จะมีผลกระทบต่อตัวคุณ

ถ้าคุณลงทุนเงินเข้าไป ราคาเปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะดีหรือเลว ก็จะกระตุ้นความรู้สึกของคุณ อารมณ์มากมายจะถูกปลุกขึ้นมา ใจของคุณจะเหมือนลูกบอลยางที่ดึงไปดึงมา ทำให้คุณตกอยู่ในความยุ่งเหยิงทางจิตใจ

นักเทรดจะต้องเผชิญกับจิตวิทยาที่รุนแรงในทุกๆ วินาที ตั้งแต่ความตื่นเต้น ความสุข จนถึงความวิตกกังวล ความโกรธ หรือแม้กระทั่งความสิ้นหวัง ในบางครั้งคุณอาจรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ควบคุมตลาด แต่ในเสี้ยววินาทีเดียว ตลาดสามารถกดดันคุณให้หมดหนทางได้

ในความคิดของฉัน คุณจะต้องสัมผัสประสบการณ์จิตใจที่น่ากลัวที่สุด เช่น การใส่เงินจำนวนมากลงในบัญชี และมองดูว่ามันหายไปเพียงชั่วพริบตา จนในที่สุดคุณอาจเหลือแค่บัญชีที่มี 0 ติดอยู่ มันไม่มีอะไรน่าละอายไปกว่านี้แล้ว!

ในฐานะที่เป็นนักเทรด หน้าที่แรกของคุณคือการทำให้จิตใจเป็นกลาง คุณต้องจะเหมือนกับเครื่องจักร: เต็มไปด้วยทักษะ แต่เยือกเย็นและเป็นกลาง ฉันแนะนำให้คุณอ่านหนังสือสองเล่มนี้: “การวิเคราะห์จิตวิทยาการเทรด” และ “การเทรดอย่างมีวินัย” โดยมาร์ค ดั๊กลาส

ศัตรูทางจิตใจ

ศัตรูหลักสองประการของเราคือ ความกลัวและความโลภ ความกลัวทำให้นักเทรดไม่สามารถแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ พวกเขาหรือออกจากการซื้อขายที่ดีเกินไปเร็วเกินไป หรือลังเลเมื่อต้องเข้าสู่การซื้อขายเมื่อมีสัญญาณชัดเจน ความกลัวจะทำให้พวกเขาถอยหลังและพลาดโอกาสอันดี

ความโลภเป็นตรงข้ามกับความกลัว เนื่องจากความโลภ นักเทรดจะกล้าที่จะเสี่ยงมากขึ้นแม้ในตลาดที่มีความผันผวนสูงหรือมีเสถียรภาพ ก็ตาม พวกเขายังอาจติดอยู่ในการซื้อขายที่ล้มเหลวและไม่สามารถจัดการการหยุดขาดทุนได้อย่างเหมาะสม

ความกลัวและความโลภเป็นเพียงสองอารมณ์เท่านั้น ฉันเชื่อว่านักเทรดจำนวนมากได้เห็นผลกระทบทางลบจากอารมณ์อื่นๆ แล้ว เราจะต้องทำอย่างไร? เราควรหลีกเลี่ยงอารมณ์ที่ขวางกั้นการซื้อขายที่สำเร็จได้อย่างไร?

การควบคุมอารมณ์

นักเทรดที่สามารถสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่องมักจะเป็นผู้ที่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ดี พวกเขาจะสังเกตตลาดและเรียนรู้ที่จะไม่มีความคาดหวังใดๆ มองว่าตนเป็นเครื่องจักรที่ทำงานได้ เครื่องจักรทำงานตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ ดังนั้นพวกเขาก็ต้องปฏิบัติตามแผนการซื้อขายที่ตั้งไว้ มีกลยุทธ์ที่ดี ตั้งค่าความเสี่ยงและหาสัญญาณ

ไม่ว่าตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ตราบใดที่มีการหยุดขาดทุน สัญญาณการซื้อขายนั้นจะถูกยุติลง

วิธีการปฏิบัติตน

จะทำอย่างไรเพื่อที่จะปล่อยวางความกลัวและความโลภ? คุณสามารถทำตามวิธีด้านล่างนี้:

• ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นการซื้อขาย ให้ลงทุนเพียงเล็กน้อยในตลาด เพราะสิ่งที่คุณลงทุนไม่ว่าจะเป็น 10 ดอลลาร์หรือ 1000 ดอลลาร์ เงินจะมีผลต่อวิธีคิดของคุณและจะเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของคุณ
• อย่าลงทุนด้วยเงินที่คุณไม่สามารถเสียได้ ถ้าการซื้อขายขาดทุน สถานการณ์ทางการเงินของคุณจะยุ่งยากมาก
• คุณต้องปฏิบัติตามแผนการซื้อขายอย่างเคร่งครัด
• คุณต้องปฏิบัติตามกลยุทธ์การซื้อขายอย่างไม่มีข้อยกเว้น
• คุณต้องรู้เสมอว่าความเสี่ยงที่คุณรับนั้นมีอะไรบ้างและต้องตั้งค่าการหยุดขาดทุน
• คุณต้องไปถึงสถานะที่ว่า ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน คุณก็ต้องทำให้มันสงบไว้ได้
• คุณต้องมีการรับรู้ว่า เมื่อใดที่อารมณ์ของคุณไม่ดี อย่าเข้าไปซื้อขาย
• คุณต้องมาถึงจุดที่ไม่ต้องเช็ครายละเอียดการขาดทุนทุกบ่อยครั้ง สามารถเช็คเมื่อสิ้นวันซื้อขายได้
• และเป้าหมายของการเช็คบัญชีคือการทำความเข้าใจว่า ข้อปฏิบัติใดที่ส่งผลให้เกิดกำไรหรือขาดทุน และสอบสวนข้อผิดพลาดในการซื้อขาย
• สุดท้าย ให้เรียนรู้ที่จะให้เวลากับตัวเอง! สิ่งนี้ยากมากและต้องใช้เวลาในการฝึกฝน

ข้อสรุป

จริงๆ แล้ว ความลับในการซื้อขายคือไม่มีความลับ ไม่มีวิธีการใดที่เพอร์เฟ็กต์ที่จะทำให้เรามีกำไรมากขึ้นอย่างยั่งยืน คุณจะไม่สามารถหาหลักการทองคำได้ เพราะมันไม่มีอยู่จริง สิ่งที่คุณต้องทำคือควบคุมจิตใจของคุณ จัดการเงินอย่างมีเหตุผล และดำเนินกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ