ความผิดพลาดที่นักลงทุนสี่อย่างที่มักเกิดขึ้น

นักลงทุนทั่วไปในตลาด Forex มักทำผิดพลาดเกี่ยวกับการใช้จุดหยุดขาดทุน ซึ่งมีอยู่สี่ประเภทด้วยกัน อย่างแรกคือการมั่นใจในความสามารถในการตัดสินใจของตัวเองเกินไป หรือคิดว่ามีเงินมากจนไม่จำเป็นต้องตั้งจุดหยุดขาดทุน ต้องรู้ว่า ทุกครั้งที่ตลาด Forex มีความผันผวนจะเกิดการเคลื่อนไหวในระดับกว่าพันจุด ดอลลาร์/เยน เอาไปจาก 264 ถึง 79 ใช้เวลาถึงสิบปี เกิดความผันผวนราวสองหมื่นจุด จุดเริ่มต้นห่างออกไปเพียงแค่ยี่สิบปี ใครจะสามารถมั่นใจได้ว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอย? หากเกิดลมแรงเช่นนี้ การคำนวณด้วยเลเวอเรจ 50 เท่า ความเสียหายต่อการซื้อขายหนึ่งครั้งอาจสูงถึง 18.5 ล้านเยน คิดดูว่ามีใครที่มั่นใจว่ามีเงินทุนเช่นนี้? หากไม่ตั้งจุดหยุดขาดทุน ปล่อยให้ตลาดเปลี่ยนแปลง จะอันตรายพอกับการนั่งเรือพายข้ามมหาสมุทร ความเสี่ยงนั้นชัดเจน นักลงทุนเช่นนี้จะถูกตลาดลงโทษในไม่ช้า

การมีจุดหยุดขาดทุนในใจ แต่ไม่มีจุดหยุดขาดทุนในระบบ

นักลงทุนประเภทนี้มักกังวลว่าการตั้งจุดหยุดขาดทุนจะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่จำเป็น แต่จุดอ่อนของมนุษย์มักจะทำให้คนเหล่านี้ลังเลไม่กล้ายอมแพ้เมื่อแนวโน้มของตลาดใกล้ถึงจุดหยุดขาดทุนของตน และมักจะถอยจุดหยุดขาดทุนออกไป เมื่อถึงจุดที่ไม่อาจทนได้จึงจะถูกบังคับให้ขายและออกจากตลาด ความเสียหายมักจะมากกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก

การตั้งจุดหยุดขาดทุนโดยใช่จำนวนเงินแบบสุ่ม

การตั้งหมายเลขจุดหยุดขาดทุน ถือเป็นความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างที่ปรึกษาการซื้อขายมืออาชีพกับนักลงทุนทั่วไป ที่ปรึกษาการซื้อขายมืออาชีพเข้าใจการใช้เทคนิคต่าง ๆ โดยพิจารณาจากลักษณะเฉพาะของสกุลเงินแต่ละประเภทและตั้งจุดหยุดขาดทุนอย่างเหมาะสม ในขณะที่ตลาดยังไม่เปลี่ยนแปลง เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจุดหยุดขาดทุน ในขณะที่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาดควรลดความเสียหายให้น้อยที่สุดตามวัตถุประสงค์ของการตั้งจุดหยุดขาดทุน แต่การใช่จำนวนเงินหรือจุดค่าที่สุ่มเป็นจุดหยุดขาดทุนมักจะเกิดการสัมผัสจุดหยุดขาดทุน และมักจะเสี่ยงต่อการดำเนินการไปในทิศทางที่คาดไว้ซึ่งอาจเกิดความเสียหายที่ไม่จำเป็น

การลังเลจากการคำนวณความเสียหายเล็กน้อย

เกิดการลังเลจากลูกค้านี้มักเกิดจากสภาพจิตใจที่ไม่เข้มแข็งโดยสิ้นเชิง รู้ชัดว่าแนวทางไม่ถูกต้องแต่ก็หวังว่าจะสามารถหยุดขาดทุนที่ระดับราคาที่ไม่เสียหายมาก ผลสุดท้ายคือแนวโน้มไม่กลับมา และราคาที่ต้องการจะมีอยู่แต่ในอดีต ทำให้เกิดความขาดทุนมากกว่าที่คาดไว้ในตอนแรกมาก