การพัฒนาความรู้

“การพัฒนาความรู้เกิดจากการพยายามค้นหาเหตุผลที่ผิดพลาดจากทฤษฎีของเรา มากกว่าการพิสูจน์ทฤษฎีเหล่านั้น”—Karl Popper

ความเชื่อในการซื้อขาย

“โดยทั่วไปแล้วเราทำการซื้อขายโดยอิงจากความเชื่อของเราเกี่ยวกับตลาด เมื่อเราตัดสินใจเกี่ยวกับความเชื่อเหล่านั้นแล้ว จะยากที่จะเปลี่ยนแปลงมันได้ ดังนั้นเมื่อเรามีส่วนร่วมในตลาดการซื้อขาย เราจะคิดว่าเรากำลังพิจารณาข้อมูลทั้งหมดที่สามารถใช้ได้ อย่างไรก็ตาม จากมุมมองของการเข้าใจอย่างเลือกสรร ความเชื่อของเราอาจตัดความสำคัญออกไปซึ่งข้อมูลที่มีค่าที่สุด”

อิทธิพลของความเบ้ทางจิตใจ

ผู้คนมีความกระตือรือร้นในการพัฒนาระบบการซื้อขาย (กลยุทธ์) ต่างๆ ซึ่งแต่ละระบบนั้นเผยให้เห็นความเชื่อเกี่ยวกับการทำงานของตลาด ซึ่งนำไปสู่การที่ผู้คนถูกอิทธิพลจากความเบ้ทางจิตใจ ก่อนที่จะพัฒนาระบบการซื้อขาย เหมือนกับที่เราได้กล่าวไว้ในบทความก่อนหน้านี้ ว่าผู้คนส่วนใหญ่เมื่อมองหาสัญญาณเข้า จะเลือกมองแต่สถานการณ์ที่พวกเขาหวังว่าจะเกิดประโยชน์ ในขณะที่สถานการณ์ที่ไม่มีประโยชน์มักถูกมองข้ามไป ความเบ้ทางจิตใจที่เกิดขึ้นนี้จะส่งผลกระทบกับเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็นก่อน ระหว่าง หรือหลังการซื้อขาย ซึ่งมีผลต่อเส้นทางการซื้อขายของเรา”

ผลกระทบจากข้อมูลตลาด

หลายๆ ผู้ซื้อขายเลือกใช้ข้อมูลราคาจากช่วงเวลาที่หลากหลาย และพวกเขาจะใช้ดัชนีในการวิเคราะห์แท่งราคาต่างๆ โดยปกติแล้วพวกเขาจะคิดว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นเป็นความจริงที่มีความเป็นกลาง ตัวอย่างเช่น RSI, ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่, MACD ฯลฯ มันดูเหมือนจะเป็นจริง แต่ผู้คนมักลืมว่าแท้จริงแล้วมันเป็นเพียงข้อมูลราคาที่มีอยู่ก่อนหน้านั้นที่ถูกคำนวณออกมา พูดให้ชัดกว่านั้นคือข้อมูลดิบที่ถูกบิดเบือน โดยอิงจากข้อสมมติที่แทนที่ตลาด”

ความเบ้ด้านภาพลักษณ์

ซึ่งเรียกว่า “ความเบ้ด้านภาพลักษณ์” หมายถึงการที่ผู้คนมักคิดว่า หากบางสิ่งสามารถแทนสิ่งอื่นได้ มันจะเป็นสิ่งที่แทนที่นั้นจริงๆ ความเบ้ลักษณะนี้อาจทำให้เราหลงผิดคิดว่ากราฟราคาหรือดัชนีแสดงถึงตลาดที่แท้จริง แต่กราฟราคานั้นแท้จริงแล้วเป็นเพียงเส้นหนึ่งในหน้าจอ มันไม่สามารถบอกคุณได้ว่ามีกี่ปริมาณที่เกิดขึ้น หรือที่ราคาใดๆ เกิดปริมาณเท่าไหร่

ความจำเป็นในการสร้างทฤษฎี

อีกประเภทหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อผู้คนจำนวนมากคือ “ความจำเป็นในการสร้างทฤษฎี” ซึ่งมันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนากลยุทธ์การซื้อขายของผู้คน พวกเขามักมองข้ามปัจจัยสุ่มไปอย่างหมดสิ้น ผู้คนจำนวนมากยังคงสร้างทฤษฎีที่ซับซ้อนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาด สื่อหลายแห่งก็กำลังพยายามอย่างสุดความสามารถในการอธิบายพฤติกรรมตลาด แม้พวกเขาจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับตลาดเลยก็ตาม

เป้าหมายของการซื้อขาย

เมื่อถึงวันที่ค่าเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นในวันรุ่งขึ้น (หรือภายในชั่วโมงถัดไป) เว็บไซต์ข่าวสารการเงินหลายแห่งจะเผยแพร่ข่าวสารอัน “เป็นความจริง” เกี่ยวกับพฤติกรรมตลาดนั้น อย่างไรก็ตาม เป้าหมายเดียวที่เรามีในการซื้อขายในตลาดคือการทำให้พฤติกรรมของตลาดสร้างประโยชน์สูงสุดกับเรา (เพื่อทำกำไร) นี่คือเป้าหมายสุดท้ายของเรา ไม่ใช่การหาความจริงเกี่ยวกับพฤติกรรมของตลาดที่แตกต่าง

กลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน

ดังนั้นสิ่งที่เราต้องการคือการสร้างกลยุทธ์ (ระบบ) สำหรับการซื้อขายในตลาดที่มีผลตอบแทนเป็นที่ยอมรับ ในไม่ช้านี้เราจะมีการอภิปรายอย่างละเอียดเกี่ยวกับผลตอบแทนในระบบการซื้อขาย ทุกคนรอคอยได้เลย