1) ศึกษาแผนการก่อนเริ่มการซื้อขาย

นักลงทุนหลายคนมักจะให้ความสำคัญกับการช็อปปิ้งมากกว่าการลงทุนในการซื้อขาย โดยทั่วไปแล้วผู้คนจะไม่ใช้จ่ายกว่า 400 บาทเพื่อซื้อสินค้าที่ไม่ได้ทำการเปรียบเทียบ และการศึกษาสินค้าให้รอบคอบ แต่ส่วนใหญ่ของนักลงทุนกลับลงทุนเกิน 400 บาท เพราะแรงบันดาลใจหรือความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ดังนั้นการลงทุนแต่ละครั้งจะต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ ซึ่งแผนนี้ต้องรวมถึงจุดหยุดขาดทุนและจุดทำกำไร เพื่อให้สามารถคาดการณ์ทิศทางของตลาดได้ และต้องมีการวางแผนในกรณีที่เลวร้ายที่สุดด้วย

2) ต้องหยุดขาดทุนให้เร็วและรอผลกำไรด้วยความอดทน

แนวคิดนี้อาจฟังดูเรียบง่าย แต่การนำไปปฏิบัตินั้นค่อนข้างยาก นักลงทุนหลายคนมักจะทำผิดพลาดในจุดนี้ นักลงทุนจำนวนมากมักจะละเมิดแผนการที่ตั้งไว้ เมื่อยังไม่ถึงจุดทำกำไร ก็จะปิดการซื้อขายให้เร็ว เพราะเมื่อมีผลกำไรพวกเขาจะรู้สึกไม่สบายใจกลัวว่ากำไรจะหายไป และกลุ่มคนเดียวกันก็ง่ายที่จะไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อบัญชีประสบกับการขาดทุน มองเห็นการขาดทุนที่สูงถึงร้อยจุด แล้วก็ต้องภาวนาให้ตลาดหันกลับคืน

บางนักลงทุนเชื่อว่าตลาดจะกลับมาเหมือนครั้งก่อนเพราะเคยเห็นราคาตลาดเปลี่ยนทิศทาง หลังจากแตะจุดหยุดขาดทุน ดังนั้นทุกครั้งที่ราคาตลาดใกล้จุดหยุดขาดทุน พวกเขาก็มักจะเลื่อนจุดหยุดขาดทุนที่ตั้งไว้ไปข้างหลังอีกครั้ง จุดหยุดขาดทุนเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการช่วยนักลงทุนในการควบคุมการขาดทุนให้อยู่ในขอบเขตที่คาดการณ์ไว้ นักลงทุนมีมุมมองผิดพลาดว่าการซื้อขายแต่ละครั้งจะต้องทำกำไร แต่ถ้าหากคุณถูกต้องในหกครั้งจากการค้าขายสามครั้ง ผลลัพธ์นั้นก็ดีอยู่แล้ว แต่จะทำอย่างไรในเมื่อมีโอกาสถูกต้องเพียงครึ่งเดียว แม่แบบก็คือการหยุดขาดทุนให้เร็ว และการรอการทำกำไรด้วยความอดทน

3) อย่าหลงรักการซื้อขายใด ๆ

ทำไมแผนการก่อนซื้อขายจึงสำคัญที่สุด? เพราะทุกการศึกษาและการวิเคราะห์จะต้องเสร็จสิ้นในช่วงนี้ นักลงทุนหลายคนหลังจากส่งคำสั่งซื้อ พวกเขามักจะใช้ "ความหวัง" ในการตัดสินใจตลาด ถึงแม้จะมีข่าวไม่ดีที่ส่งผลเสียต่อพวกเขา พวกเขายังคงหวังว่าตลาดจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ต้องการ และสูญเสียความสามารถในการตัดสินอย่างเป็นกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบัญชีขาดทุน นักลงทุนจะเหมือนกับว่าแต่งงานกับสถานะที่ยังเปิดอยู่ และไม่เห็นหรือไม่ใส่ใจในข้อเท็จจริงที่ไม่เอื้ออำนวยทั้งหมดในตลาด

4) หลีกเลี่ยงการส่งคำสั่งซื้อมากเกินไป

ห้ามส่งคำสั่งซื้อมากเกินไป นักลงทุน Forex มักทำผิดอย่างหนึ่งก็คือการขยายขนาดของเงินทุนมากเกินไป และซื้อขายเกินความสามารถในการรับความเสี่ยง การซื้อขายด้วยมาร์จิ้นเป็นดาบสองคม แม้ว่าคุณจะสามารถถือได้ถึง 100,000 บาทด้วยเงินเพียง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่าบัญชี 5,000 บาทจะสามารถซื้อขาย 500,000 บาทได้ในครั้งเดียว ดังนั้นการใช้มาร์จิ้นในบัญชีของเราจะต้องมีการวางแผนอย่างเหมาะสม