การเทรดฟอเร็กซ์นั้นเปรียบเสมือนการเล่นการพนันที่สามารถติดได้ง่าย เพียงแค่บัญชีมีเงินทุนก็สามารถทำการเทรดได้ตลอดเวลา แต่โดยส่วนมาก การเทรดที่ไม่มีระเบียบวินัยและการพิจารณาอย่างเหมาะสมมักจะนำไปสู่การขาดทุนและการล้มละลาย ดังนั้นเพื่อที่จะลดการเทรดที่ไม่จำเป็น การมีแผนการเทรดที่ชัดเจนและทำตามอย่างเคร่งครัดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณมีโอกาสสร้างกำไรได้อย่างยั่งยืนในตลาดที่มีการแข่งขันสูงนี้
แผนการเทรดที่ดีมักมีลักษณะล่วงหน้า มีการจัดการที่ชัดเจน และมีการบริหารความเสี่ยงที่ชัดเจน โดยทั่วไปแล้วจะประกอบไปด้วยสินค้าที่จะเทรด อัตราส่วนกำไรต่อขาดทุน การวิเคราะห์ตลาด เงื่อนไขและเวลาในการเข้าซื้อและขาย การจัดการเงินทุน แต่เนื้อหาที่ต้องมีจะแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ โดยบทความนี้จะพิจารณาเป็นสองช่วง คือ ไม่มีประสบการณ์มากและไม่มีระบบการเทรดที่ชัดเจน กับผู้ที่มีระบบการเทรดที่พัฒนาแล้ว
ในความเป็นจริง เทรดเดอร์ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มนี้ พวกเขามักไม่มีประสบการณ์ในการเทรดมากนัก และยังไม่เข้าใจตลาดอย่างลึกซึ้ง การบริหารจัดการเงินก้อนไม่มีระเบียบ และมีความเสี่ยงต่อการขาดทุนสูง สำหรับเทรดเดอร์ชนิดนี้ การมีแผนการเทรดที่ชัดเจนไม่เพียงแต่ช่วยให้การคิดวิเคราะห์เกี่ยวกับการเทรดดีขึ้น แต่ยังช่วยให้พวกเขาสร้างระบบการเทรดที่สอดคล้องกับสไตล์ของตนเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดและเสริมสร้างความตระหนักรู้และทักษะในการบริหารความเสี่ยง
โดยทั่วไปแล้ว แผนการควรประกอบไปด้วยปัจจัยพื้นฐานดังนี้:
โดยรวมแล้ว ทุกองค์ประกอบของแผนการเทรดควรจะถูกจัดทำอย่างเป็นระบบ โดยไม่จำเป็นต้องระบุราคาที่เข้าซื้ออย่างละเอียด แต่ควรมีการวางแผนที่ชัดเจนสำหรับการดำเนินการทางการเทรด ไม่ควรพึ่งพากระแสหรือความรู้สึกเพียงอย่างเดียว จำไว้ว่า การบริหารจัดการเงินคือส่วนที่สำคัญที่สุดในแผนการเทรด คุณควรกำหนดแผนคร่าวๆ ก่อน แล้วค่อยกำหนดแผนการที่เฉพาะเจาะจงเป็นระยะๆ (ทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน) ไม่กี่เขียนแผนวันต่อวันก่อนทำการเทรด
สำหรับผู้ที่มีระบบการเทรดที่พัฒนาแล้ว การวางแผนสามารถทำได้โดยละเอียดมากขึ้น ระบบการเทรดที่สมบูรณ์มักมีการรวมกันของแนวคิดการเทรด เครื่องมือการวิเคราะห์ (เช่นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่) และการบริหารจัดการเงิน มีการวางแผนการเทรดจะช่วยให้ระบบการเทรดมีความชัดเจนมากขึ้น และสามารถรับประกันว่าระบบนั้นจะถูกนำไปใช้อย่างถูกต้อง
แผนการชนิดนี้มักจะมีเนื้อหาคล้ายกับแผนการก่อน แต่จุดที่ต่างออกไปคือการเข้าซื้อและการออกจากตลาดรวมถึงการบริหารจัดการเงินที่ละเอียดและชัดเจนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์ A มีระบบการเทรดที่พัฒนาแล้ว โดยบัญชีของเขามีเงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมที่จะตั้งเป้าหมายผลตอบแทน 30% ต่อปี โดยมีสัดส่วนเงินลงทุน 30% ตั้งขีดจำกัดการขาดทุนสูงสุดไว้ที่ 5% และตั้งอัตราส่วนกำไรต่อขาดทุนไว้ที่ 2:1 โดยเฉพาะในการเทรดฟอเร็กซ์และทองคำ
เทรดเดอร์นี้สามารถแบ่งแผนการเทรดออกเป็นสามส่วน
ไม่ว่าจะเป็นแผนการเทรดแบบใด จำเป็นต้องมีการตรวจสอบและปรับปรุงให้ตรงกับสถานการณ์จริงอย่างต่อเนื่อง หลายคนในวงการกลับไม่สามารถปฏิบัติตามแผนที่สร้างมาได้ จริงจังในการทำแบบนี้แต่ไม่ได้ความเป็นธรรมในการลงมือ ซึ่งมีสาเหตุหลักสองประการ หนึ่งคือความเข้าใจเกี่ยวกับแผนการเทรดไม่ถึง และอีกหนึ่งคือการขาดการปฏิบัติอย่างเข้มงวด สรุปคือ แผนการที่ดีที่สุดจะไม่มีผลเมื่อไม่ถูกนำไปปฏิบัติ ดังนั้น เทรดเดอร์จำเป็นต้องมีการวางแผนและต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อที่จะไม่ประสบปัญหาในตลาดที่มีความผันผวนสูง
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา
เรื่องที่น่ารู้
Crescentcollege คือเว็บไซต์ที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทุกความเคลื่อนไหวในตลาดเหล่านี้
เราไม่สนับสนุนการชักชวนให้เทรดหรือการระดมทุนในทุกรูปแบบ เรามุ่งมั่นเป็นเพียงสื่อกลางในการแบ่งปันความรู้ที่เป็นประโยชน์เท่านั้น
**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกประเภทมีความเสี่ยง นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรควรทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนก่อนการซื้อขาย**
ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ Crescentcollege สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์
ติดต่อทางอีเมล: [email protected]
ติดต่อเพิ่มเติมทาง Line:
© 2024 Crescentcollege. สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามทำซ้ำ คัดลอก หรือเผยแพร่ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
เรานำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง โดยไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำการลงทุน
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น