๑. การ判断สถานะของตลาด การลงทุนต้องเริ่มจากการประเมินว่าสถานะตลาดอยู่ในสภาพตลาดขาขึ้น ขาลง หรือสมดุล หากไม่ทำเช่นนั้นอาจเกิดความสับสนได้ อธิบายคือแนวเส้นค่าเฉลี่ยถ้าอยู่เหนือแสดงว่าตลาดขาขึ้น หากอยู่ต่ำแสดงว่าตลาดขาลง ต้องดูแนวเส้นค่าเฉลี่ยในระยะกลางถึงยาว ชัดเจนว่าสามารถใช้การวิเคราะห์ทางพื้นฐานได้ แต่การวิเคราะห์พื้นฐานซับซ้อนและไม่แน่ชัด สำหรับนักลงทุนรายเล็กแนะนำให้ใช้แนวเส้นค่าเฉลี่ยในการประเมินสถานะของตลาด การประเมินสถานะตลาดเป็นพื้นฐานในการวิเคราะห์และไม่ยากเกินไป แต่ส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อในวิธีการที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมักคิดว่าตลาดไม่สามารถคาดการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม จริง ๆ แล้ว ความซับซ้อนของการคาดการณ์ทำให้นักลงทุนไม่กล้าเชื่อในสิ่งที่เรียบง่าย หากนักลงทุนไม่ใช้การคาดการณ์ในการเทรด แต่ใช้การประเมินว่าสถานะปัจจุบันเป็นอย่างไร เปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมากมาย การประเมินสถานะตลาดหมายถึงการประเมินสถานะปัจจุบันที่ตลาดอยู่ ไม่ใช่ประเมินสถานะในอนาคต นี่คือแนวคิดพื้นฐานของการเทรดแบบโปรแกรม
การรู้สถานะของตลาดสามารถช่วยให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทางทิศทางได้ แต่ไม่สามารถทำการเทรดอย่างเฉพาะเจาะจงได้ หลังจากประเมินสถานะตลาดแล้ว นักลงทุนต้องประเมินสถานการณ์ตลาดอย่างเฉพาะเจาะจง ความสามารถในการประเมินสถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจงช่วยให้ทำธุรกิจได้จริง การประเมินสถานการณ์อย่างเฉพาะเจาะจงสามารถวิเคราะห์จากโครงสร้างกราฟและความเร็วของราคาได้
เมื่อวิเคราะห์ตลาดเสร็จสิ้น นักลงทุนสามารถเข้าสู่ขั้นตอนการเทรดได้ โดยเฉพาะ: ๑. สถานะขาขึ้น (หรือลง) ควรพิจารณาเรื่องการซื้อ (หรือขาย) เท่านั้น ไม่ควรพิจารณาว่าจะขาย (หรือซื้อ) อย่างไร นั่นคือไม่ควรเปิดออเดอร์ตรงข้ามกับทิศทางตลาดและไม่ควรกินช่วงพักตัว เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทางทิศทาง ๒. กำหนดเครื่องมือการเทรดเพื่อควบคุมจังหวะการเข้า การเลือกเครื่องมือขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล สามารถใช้เส้นค่าเฉลี่ย เส้นแนวโน้ม รูปแบบ หรือเครื่องมืออื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ แต่อย่าทำตามผู้อื่นโดยไม่เข้าใจ เครื่องมือการเทรดมีความสำคัญมาก ความสามารถในการใช้เครื่องมือจะสร้างผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ๓. การเพิ่มทุนเมื่อมีสัญญาณขาขึ้น (หรือขาลง) ต้องตั้งจุดหยุดขาดทุนให้เหมาะสม เป็นพฤติกรรมการเทรดตามวัฒนธรรมส่วนบุคคล ๔. ในช่วงปรับฐานอาจต้องลดการถือครองหรือลงทุนซ้ำ การปรับฐานส่งผลต่อการลงทุน จึงต้องใช้วิธีลดขาดทุนหรือค่าใช้จ่ายในการทำธุรกิจ ๕. การกลับสถานะต้องกลับตัวเมื่อสถานะตลาดมีการเปลี่ยนแปลง โดยอาจใช้เทคนิคกราฟเป็นหลัก
การวิเคราะห์ข้างต้นต้องอิงจากแนวคิดที่ไม่ใช้การคาดการณ์ตลาด แต่ใช้การประเมินสถานะตลาด ความสำคัญในจุดนี้ช่วยให้นักลงทุนมีการประเมินสถานะตลาดอย่างเป็นกลาง บนพื้นฐานของการประเมินแล้ว นักลงทุนจึงสามารถดำเนินการเทรดได้อย่างเป็นกลาง การทำให้การวิเคราะห์การเทรดง่ายขึ้นหมายถึงการเปลี่ยนแปลงจากนักลงทุนมือใหม่เป็นมืออาชีพ หรือการทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น กุญแจสำคัญคือการจับจังหวะและจัดการกับตลาดที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การคาดการณ์อนาคต การเทรดแบบโปรแกรมจึงมุ่งเน้นการจัดการกับตลาดปัจจุบัน ไม่ใช่อนาคต เมื่อตลาดอยู่ในช่วงปรับฐาน หลายคนอาจสับสนเกี่ยวกับตลาด แต่หากวิเคราะห์และเทรดแบบมีระบบจะช่วยให้มองตลาดในมุมมองที่ชัดเจนและหลีกเลี่ยงการสับสน
2024-11-14
เรียนรู้วิธีสร้างนิสัยการซื้อขายที่ดีด้วยการยึดมั่นและมีวินัยในการซื้อขาย.
การซื้อขายนิสัยการซื้อขายการจัดการความเสี่ยงบันทึกการซื้อขาย
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา
เรื่องที่น่ารู้
Crescentcollege คือเว็บไซต์ที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทุกความเคลื่อนไหวในตลาดเหล่านี้
เราไม่สนับสนุนการชักชวนให้เทรดหรือการระดมทุนในทุกรูปแบบ เรามุ่งมั่นเป็นเพียงสื่อกลางในการแบ่งปันความรู้ที่เป็นประโยชน์เท่านั้น
**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกประเภทมีความเสี่ยง นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรควรทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนก่อนการซื้อขาย**
ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ Crescentcollege สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์
ติดต่อทางอีเมล: [email protected]
ติดต่อเพิ่มเติมทาง Line:
© 2024 Crescentcollege. สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามทำซ้ำ คัดลอก หรือเผยแพร่ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
เรานำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง โดยไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำการลงทุน
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น