การเชื่อมโยงระหว่างเทคนิคและจิตใจ

นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าการเทรดในตลาด Forex เป็นปัญหาด้านเทคนิค แต่อันที่จริงแล้วไม่เป็นเช่นนั้น ปัจจัยด้านเทคนิคเพียง 20% ในขณะที่ 80% ของปัจจัยที่ส่งผลมาจากจิตใจของเรา ความแตกต่างระหว่างสองและแปดไม่ได้หมายความว่าจิตใจสำคัญกว่าทักษะ แต่หมายถึงทักษะนั้นจะทำงานได้ดีขึ้นต้องอิงจากจิตใจ ความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เหมือนกับจิตวิญญาณและร่างกาย ร่างกายคือด้านกายภาพ ในขณะที่จิตวิญญาณคือแหล่งของความคิดสร้างสรรค์อันไม่มีที่สิ้นสุด เช่นเดียวกัน เทคโนโลยีเปรียบเสมือนเมล็ดพันธ์ ขณะที่จิตใจคือดินที่ให้การเจริญเติบโต

การแลกเปลี่ยนจิตใจและการตอบสนองต่อระบบ

การแลกเปลี่ยนจิตใจไม่ใช่ความสามารถพิเศษ และไม่ใช่การคาดเดาแบบอัตวิสัย มันคือการโต้ตอบที่กลมกลืนระหว่างบุคคลกับทั้งหมด มันคือจุดสุดยอดของการเทรด จิตสำนึกของมนุษย์มีลักษณะเฉพาะในการแบ่งแยก "มัน" เป็นหนึ่งเดียวกับ "ตัวตน" ซึ่งหมายความว่า "ฉัน" คือ "ตัวตน" และ "ปัญหา" คือ "วัตถุ" นักลงทุนมักจะเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างตัวตนและวัตถุในลักษณะเชิงเส้นเพียงทิศทางเดียว ดังนั้น นักลงทุนจำนวนมากหวังที่จะหาระบบการเทรดที่สมบูรณ์ เพื่อต่อสู้กับตลาด Forex

การเรียนรู้จากความล้มเหลว

แต่ความท้าทายในเกมนี้คือการแข่งขันระหว่างมือซ้ายและมือขวา ผู้ชนะที่แท้จริงคือใคร? ผู้คนมักจะกล่าวว่า "ผู้ที่ทำการแลกเปลี่ยนที่ดีไม่เก็งกำไร!" มีเรื่องเล่าที่พูดถึงผู้เชี่ยวชาญด้านการดูดวงคนหนึ่งที่คาดเดาว่าภาชนะโบราณที่เขารักจะถูกทำลายในวันที่และชั่วโมงที่ระบุ เขารักภาชนะนี้มาก จึงตัดสินใจที่จะปกป้องมันให้ได้ เขาได้วางมันตรงกลางโต๊ะในวันที่และเวลานั้นและไม่ยอมให้ใครเข้ามาใกล้ ขณะรับประทานอาหารกลางวัน ภรรยาของเขาเรียกเขา แต่ไม่เห็นการตอบสนอง จึงเกิดความโกรธและตบโต๊ะอย่างหนัก ทำให้ภาชนะตกจากโต๊ะและแตก

การตระหนักรู้และการออกจากโมเดล

เขารู้แจ้งเห็นจริงและถอนหายใจว่า "การคำนวณเพื่อทำนายไม่สามารถทำให้เราเข้าไปในระบบได้!" และจากนั้นเขาก็หยุดการคาดการณ์ นี่คือการเปิดประตูให้เราเข้าใจโครงสร้างตลาด เรื่องราวนี้สอนเราว่าแม้จะมีการคำนวณมากมาย แต่ถ้าเราไม่ผสมผสานเข้าไปในระบบ เราก็ไม่สามารถโต้ตอบและล่วงรู้เกี่ยวกับผลกระทบที่พฤติกรรมของเราเกิดขึ้นได้ นักลงทุนในตลาด Forex ก็เป็นทั้งผู้ชมและผู้เล่น โดยพฤติกรรมการเทรดส่งผลต่อราคาที่ผันผวน และราคาที่ผันผวนกลับส่งผลต่อพฤติกรรมการเทรด

การสร้างความสมดุลระหว่างตัวตนและวัตถุ

ตลาดจึงเป็นระบบที่ปรึกษาและเชื่อมโยงกันแบบวงกลม ซึ่งตัวตนและวัตถุส่งผลซึ่งกันและกัน แม้ในระบบที่ไม่แน่นอนนี้ ขอบเขตระหว่างตัวตนและวัตถุก็ค่อนข้างไม่ชัดเจน กล่าวคือ เมื่อใดก็ตามที่นักลงทุนเข้ามาในตลาด เขาต้องกำจัดความเป็นปัจเจกและผสมผสานเข้ากับทั้งที่รวมกัน ในการเล่นเกมระหว่างมือซ้ายและถือขวา ความลับทั้งหมดคือการค้นหาจุดสมดุล

ทุกคนมองหาความสำเร็จ

ไม่ว่าจะเบียงซ้ายหรืขวาจะกระทบบางสิ่ง ด้วยการค้นหาจุดสมดุลอย่างเดียวก็เกินความจำเป็นในการประสบความสำเร็จ ในระดับนี้ สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไรกับวิธีการวิเคราะห์เชิงเทคนิคหรือพื้นฐานเลย เนื่องจากในระบบที่ไม่แน่นอน การใช้งานเครื่องมือลักษณะเชิงเส้นมักจะกลับกลายเป็นความสามารถทางลบเท่านั้น เพราะเราต้องแสวงหาวิธีการแก้ไขในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นระดับจิตสำนึก

การกำหนดกลยุทธ

จนถึงตอนนี้ เราพยายามที่จะให้การกำหนดของการแลกเปลี่ยนจิตใจ การแลกเปลี่ยนจิตใจมีจุดมุ่งหมายหลักในการกำจัดความขัดแย้งในพฤติกรรมการเทรดเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างบุคคลและทั้งทั้งหมด นอกจากนี้ ความขัดแย้งในพฤติกรรมการเทรดยังรวมไปถึงหลายด้าน โดยสรุปมี: เรื่องของข้อมูล, วิธีการและพฤติกรรมที่มีอิทธิพลจากแนวความคิด

การใช้ข้อมูลในตลาด

ในตลาดการแลกเปลี่ยนจิตใจ ข้อมูลจากตลาดมีความจำเป็นต้องเป็นข้อมูลที่ทันสมัยและถูกต้อง และง่ายที่จะให้ผู้ค้าเข้าใจและยอมรับได้ ข้อมูลที่มากมายไม่ใช่ดีที่สุด แต่การตัดสินใจสุดท้ายของการเทรดอยู่ที่การซื้อหรือขาย ข้อมูลที่ไม่สามารถเข้าใจได้เพียงอาจจะรบกวนพฤติกรรมการเทรด นักลงทุนจำนวนมากในขณะนี้ติดอยู่กับการวิเคราะห์ตัวชี้วัด ความคิดการแลกเปลี่ยนจิตใจ หากให้เวลาในการวิเคราะห์ความหมายทางสถิติของสูตรชี้วัดจะดีกว่า พวกเขาควรจะรู้ว่าทำไมจึงเป็นแบบนี้จะดีกว่ารู้เพียงแค่”ทำไม”

การเลือกใช้เทคนิคพื้นฐาน

ในเรื่องของวิธีการบ่อยครั้งเทคนิคที่ง่ายและชัดเจนที่สุดในการทำงานร่วมกับตลาด เพื่อที่จะกำจัดการรบกวนที่ไม่จำเป็น การแลกเปลี่ยนจิตใจจะแนะนำวิธีการวิเคราะห์เชิงเทคนิคพื้นฐานเช่น รูปแบบแท่งเทียน เส้นแนวโน้ม เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ และในระดับสูงเราจะนำทฤษฎีคลื่นและวัฏจักร Gann มาใช้

ข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้งาน

วิธีข้างต้นแม้จะเป็นเทคนิคการวิเคราะห์พื้นฐาน แต่หลายคนก็ไม่สามารถทำกำไรได้ ทำให้เกิดคำถามมากมาย ปัญหาไม่ได้อยู่ที่วิธีการ แต่เป็นแนวความคิดของนักเทรด เมื่อพูดถึงการแลกเปลี่ยนจิตใจเอง มันไม่ปฏิเสธวิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคใด ๆ หมายความว่า เมื่อเข้าใจการแลกเปลี่ยนจิตใจแล้ว ผู้ใดก็ตามก็สามารถนำไปใช้ในวิธีการที่ต้องการได้

การเข้าใจในระดับที่สูงขึ้น

ในขณะนี้ สิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำคือการพยายามใช้เครื่องมือที่เป็นทางเดียว (หนึ่งมิติ) ในการแก้ไขปัญหาสองมิติ (ตัวตนและวัตถุ) อย่างชัดเจนว่า สิ่งนี้จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้น การอยู่ในระบบและพยายามแก้ไขระบบเองนั้นเป็นไปไม่ได้ ปัญหาสองมิติจำเป็นต้องยกระดับไปที่สามมิติ (ตัวตน วัตถุ และจิตสำนึกที่อิงทั้งคู่) เพื่อที่จะให้สามารถแก้ไขได้

การเชื่อมโยงใหม่และความราบรื่น

สถานการณ์นี้คล้ายกับความสัมพันธ์ระหว่าง "ทฤษฎีสัมพัทธภาพ" และ "กฎแรงดึงดูด" ในระดับการแลกเปลี่ยนจิตใจ ความขัดแย้งที่เดิมผ่านมาแสดงให้เห็นถึงความกลมกลืนและความเป็นหนึ่งเดียว ระบบเริ่มต้นทำงานในสภาพที่บริบูรณ์ ในขณะนี้ การทำกำไรไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป ความร่วมมือระหว่างตนเองกับตลาดกลายเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้ซื้อขาย

การเลื่อนขั้นสูงสุดของการแลกเปลี่ยน

การแลกเปลี่ยนจิตใจคือจุดสุดยอดของการแลกเปลี่ยน หากพูดถึงจุดที่สูงกว่านี้ มันคือ "เส้นทาง" ที่เป็นจุดสุดยอดของจิตวิญญาณมนุษย์และคือความร่วมมือกับจักรวาล