การทำความเข้าใจอารมณ์ในการซื้อขาย

เราทุกคนต่างเป็นคนทั่วไป ไม่มีใครไม่รู้จักอารมณ์ เมื่อเรามีอารมณ์แล้วจึงทำการซื้อขาย มันจะทำให้กลยุทธ์การซื้อขายของเราเปลี่ยนไปในระดับหนึ่ง แน่นอนว่า ผลลัพธ์มิได้เลวร้ายเสมอไป ฉันเคยเห็นเทรดเดอร์บางคนที่ขาดทุนมากมาย แต่กลับสามารถทำกำไรได้จากการลงทุนครั้งเดียว แต่ผลลัพธ์ส่วนมากมักจะทำให้สูญเสียทุกอย่าง ทุกคนพูดเสมอว่าความโกรธเป็นปีศาจ ซึ่งในเส้นทางการลงทุนก็เป็นเช่นนั้น ศาสนาพุทธสอนให้เราเว้นจากการโลภ ความโกรธ และความงมงาย เรียนรู้ที่จะรู้เท่าทันและใช้ปัญญา คิดให้ดีๆ ถ้าเรามีจิตใจเช่นนี้ เราจะได้รับประโยชน์มากมายในกระบวนการลงทุน การซื้อขายที่ยากที่สุดคือเมื่อการซื้อขายล้มเหลว เราต้องสามารถสรุปประสบการณ์และหยิบความมั่นใจขึ้นมาเริ่มต้นใหม่ การพูดเป็นเรื่องง่าย แต่การทำความเป็นจริงช่างยาก เราจะเริ่มจากความผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุดกันก่อน โดยใช้การวิเคราะห์ความผิดพลาดของคนอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการทำผิดพลาดซ้ำเหมือนที่นิวตันเคยกล่าวไว้ว่า "เราจะมองเห็นได้ไกลขึ้นเมื่อยืนอยู่บนไหล่ของยักษ์".

ความล้มเหลวจากการลงทุนที่หนักหน่วง

สาเหตุของการเทรดคือการต้องการทำกำไร ขนาดของกำไรขึ้นอยู่กับขนาดของตำแหน่ง และจำนวนคะแนนที่เราสามารถทำกำไรได้ การถือหุ้นอย่างหนักหมายถึงการต้องการความร่ำรวยในคืนเดียว เป็นความโลภที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ส่วนใหญ่คือการขาดทุนทั้งหมดหรือล้มละลาย แม้ว่าจะมีตำแหน่งที่หนักและอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง แต่อาจสูญเสียทุกอย่างเพราะการถอยกลับเล็กน้อย สิ่งนี้นำมาซึ่งความเสียใจและความทุกข์ให้กับเทรดเดอร์อย่างลึกซึ้ง เราจะแก้ไขข้อบกพร่องนี้ได้อย่างไร? เราควรเริ่มจากแนวคิดการลงทุน การลงทุนไม่ใช่การพนัน แต่เป็นการทำธุรกรรมภายใต้เหตุการณ์ที่มีความน่าจะเป็นสูง จากการวิเคราะห์พื้นฐานและเทคนิค พร้อมกับการกำจัดจิตใจที่โลภออกจากใจของเรา.

ความล้มเหลวจากการเทรดบ่อยเกินไป

ความถี่ในการซื้อขายมีความสัมพันธ์โดยตรงกับจิตใจของเทรดเดอร์ เช่น ถ้าวันหนึ่งมีโอกาสในการซื้อขายไม่มาก การซื้อขายมากๆย่อมทำให้เกิดข้อผิดพลาดและเวลาที่ไม่มีทิศทาง หรือพูดอีกอย่างก็คือ ความมืดบอดในการเทรด อารมณ์ที่คล้ายคลึงกับการเสี่ยงดวงสามารถควบคุมจิตใจของเทรดเดอร์ได้ เช่นเดียวกับที่มีคนพูดว่าหากไมได้ทำการซื้อขายจะรู้สึกคันมือ แท้จริงแล้วคือความคิดที่คันใจ การสั่งซื้อมักเกิดจากอารมณ์ เป็นความไร้สติที่เราได้ในช่วงที่ขาดสติ เราจึงต้องเพิ่มปัญญาของเรา ด้วยการใช้หลักการทำเงินในการเข้าใจการซื้อขาย แทนที่จะใช้หลักการซื้อขายในการเข้าใจการทำเงิน แม้ว่าเราจะเห็นว่าตลาดเต็มไปด้วยทองคำ แต่หารู้ไม่ว่าสิ่งนั้นคือกับดักและปีศาจ เราจึงต้องรู้จักรอคอย รอคอยจนกว่าเราจะพบโอกาสที่แท้จริง.

ความล้มเหลวจากการไม่ตั้งจุดตัดขาดทุน

ไม่มีใครที่ไม่คิดผิด มีการปรับปรุงแล้วแก้ไข หรือเพิ่มความพยายาม หากนักลงทุนที่มีความรู้ทางทฤษฎีค่อนข้างยอมแพ้จากการตัดสินใจผิดเล็กน้อย บางครั้งพวกเขาไม่สามารถตั้งค่าหยุดการขาดทุน ท้ายที่สุดก็ถูกตลาดกำจัดอย่างถาวร น่าเสียดาย แต่ถ้าคิดให้ดีๆ ก็มีเหตุผล เพราะสภาพตลาดมีแนวโน้มและการแกว่งตัว หากพิจารณาจากผลลัพธ์จริงๆ ถึง 99% ของการขาดทุนสามารถกู้คืนได้ แต่ถึงเวลานั้น แน่นอนจะมี 1% ที่เราไม่สามารถกู้คืนได้ และหากเรากู้ได้ ก็จะใช้เวลามากเกินไป นอกจากนี้การกู้เงินจะทำให้เกิดต้นทุนของโอกาสการทำกำไรในลักษณะทางตรง เราควรตั้งจุดตัดขาดทุนอย่างสม่ำเสมอ.

สรุป

ตัวอย่างข้างต้นคือความผิดพลาดที่ผู้คนจำนวนมากมักจะพบเจอ แน่นอนแต่ละคนก็มีปัญหาของตนเอง ดังนั้นจึงควรมีความอดทนในการค้นหา แก้ไข และเอาชนะข้อผิดพลาดเหล่านั้น ด้วยวิธีนี้เส้นทางการซื้อขายของเราจะกว้างขวางมากยิ่งขึ้น.