การเทรดข้ามทิศทาง

การเทรดข้ามทิศทางมีความสามารถในการจับตลาดที่ล่วงหน้าและคาดการณ์ได้ สิ่งที่เรียกว่า "เห็นภูเขาไม่ใช่ภูเขา เห็นน้ำไม่ใช่น้ำ" ในขณะที่การเทรดตามแนวโน้มมีความล่าช้า เป็น "เห็นภูเขาคือภูเขา เห็นน้ำคือน้ำ" เพียงเห็นในสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ขณะนั้น ไม่สามารถมองเห็นระยะยาวได้ การเทรดข้ามทิศทางช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงินทุนอย่างมาก มีความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่สูง มักจะทำกำไรในช่วงตลาดอย่างเต็มที่

การใช้งานเงินทุน

ในทางตรงกันข้าม การเทรดตามแนวโน้มมีประสิทธิภาพการใช้เงินทุนต่ำ มีความเสี่ยงต่อผลตอบแทนต่ำ เมื่อสัญญาณการเข้าตลาดปรากฏ มักจะช้าจนกว่าตลาดจะเคลื่อนที่ไปแล้วมากพอสมควร การเทรดข้ามทิศทางมีลักษณะเสี่ยงต่ำ และตั้งจุดตัดขาดทุนได้ง่าย ในขณะที่การเทรดตามแนวโน้มมีแนวโน้มที่จะ "ไล่ราคาที่พุ่งขึ้น" และ "ฆ่าราคาเมื่อวานนี้" ทำให้ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากทั้งสองด้าน

แนวคิดใหม่ในการเดิมพัน

ในด้านแนวคิด เราควรทิ้งความคิดเก่า ๆ แบบ "ทำตามแนวโน้ม" และกล้าที่จะยอมรับแนวคิดการเทรดข้ามทิศทาง วางเดิมพันสูงสุดและวัดลงอย่างระมัดระวัง อย่างเช่นในกรณีของรูปแบบ W-Bottom ตามความคิดที่ทำตามแนวโน้ม จะเข้าไปในตลาดหลังจากที่ราคาได้เคลื่อนผ่านแนวต้านของ W-Bottom ซึ่งทำให้เกิดความเสี่ยงจากการเบรกปลอม

การเปลี่ยนแปลงมุมมอง

ทำไมไม่ลองเปลี่ยนมุมมองเพื่อเข้าไปที่ตำแหน่งด้านขวาของ W-Bottom ล่ะ? ความเสี่ยงก็เหมือนเดิม แต่ความเสี่ยงที่ได้รับกลับมีค่าสูงสุดที่แตกต่างกัน ง่ายๆ แบบนี้เอง, ด้วยแนวคิดอื่นๆ ที่สามารถนำมาใช้ได้

การเทรดในขณะที่ตลาดเคลื่อนไหว

แน่นอนว่าการพูดถึงการเทรดข้ามทิศทางไม่ได้หมายความว่าจะต้องหลีกหนีจากการเทรดตามแนวโน้ม เมื่อเราสามารถค้นหาจุดสูงสุดหรือตำแหน่งต่ำสุดที่ถูกต้องได้แล้ว ต้องดำเนินการตามแนวโน้มตรงกันข้าม วิ่งลงอย่างรวดเร็วสามพันฟุต ดูเหมือนทางช้างเผือกตกลงจากฟากฟ้า การเทรดด้านซ้ายเป็นผู้เชี่ยวชาญ การเทรดด้านขวาเป็นมือสมัครเล่น

การเป็นผู้ค้าที่ข้ามทิศทาง

การเข้าใจการเทรดข้ามทิศทาง จะเหมือนค้นพบกุญแจทองในการเปิดประตูสู่การเก็งกำไร ทิ้งความคิดทำตามแนวโน้มและกลายเป็นนักเทรดข้ามทิศทางที่มีความสุข