1. ตรงข้ามกับแนวโน้มของตลาด

นี่เป็นสาเหตุที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ขาดทุน เนื่องจากนักลงทุนไม่ได้มองตลาดอย่างเป็นกลาง และได้ดำเนินการตามความต้องการส่วนตัว “ค้าขายตรงข้ามกับแนวโน้ม” ผลลัพธ์ก็คือสามารถคาดเดาได้ ประเทศจีนมีสุภาษิตที่ว่า “ตามกระแส” ตลาดทองคำฟอเร็กซ์ก็เช่นกัน เมื่อต้อง “ตามกระแส” เท่านั้นถึงจะได้รับการยอมรับจากตลาด นักเทรดควรทำการวิเคราะห์ด้านพื้นฐานและด้านเทคนิค เพื่อให้มีความเข้าใจและคาดการณ์ทิศทางการเปลี่ยนแปลงของตลาด

2. รีบทำกำไรก่อนยังไม่เข้าใจ

หลายคนที่เพิ่งเริ่มต้นมักจะไม่มีกลยุทธ์ที่ชัดเจนก่อนการเทรด บางนักลงทุนยังไม่ได้ทำความเข้าใจว่า “การเทรดฟอเร็กซ์และทองคำ” คืออะไรและเข้าไปเทรดตามความรู้สึกหวังว่าจะได้ผลตอบแทนที่สูง การเทรดเช่นนี้ขาดการเตรียมตัวพื้นฐาน แค่หวังโชคชะตาก็ย่อมต้องขาดทุนอยู่ดี ก่อนเข้าตลาด นักเทรดมือใหม่จำเป็นต้องมีทัศนคติในการเรียนรู้วิธีการเทรดเบื้องต้นและเทคนิคการวิเคราะห์

3. ขาดความมีวิจารณญาณตามกันไป

ในระหว่างการทำการเทรดฟอเร็กซ์และทองคำ เมื่อนักเทรดไม่มีวิจารณญาณจะทำให้เกิดผลกระทบที่ไม่ดี หลายคนที่เพิ่งเริ่มไขความสามารถในการแยกแยะข้อมูลสำคัญไม่ได้ เชื่อคำแนะนำที่มาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมากเกินไป โดยไม่วิเคราะห์ข้อมูลจากมุมมองของตนเอง กล่าวคือ นักเทรดได้นำเดิมพันทั้งหมดไปฝากไว้กับผู้อื่นแทนที่จะใช้เวลาในการทำความเข้าใจว่าตนเองกำลังทำอะไร ไม่มีผู้เชี่ยวชาญใดสามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะสามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในตลาดหรือการเคลื่อนไหวของตลาดได้อย่างสม่ำเสมอ

4. ควบคุมจำนวนการเทรดได้ยากเกินไป

นักเทรดที่ประสบความสำเร็จมักจะพิจารณาจากความสามารถทางการเงินและความเข้าใจเรื่องตลาดในการเลือกเงินลงทุนอย่างรอบคอบและค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม การมีความคิดแบบต้องการเดิมพันทั้งหมดในครั้งเดียวหรือการมองหาทางร่ำรวยอย่างรวดเร็วมักนำไปสู่การขาดทุนหรือแม้กระทั่งการขาดทุนอย่างหนัก “กำไรเล็กน้อย” ที่ได้รับมามีค่าไม่เพียงแค่ผลประโยชน์ แต่รวมถึงคุณค่าของประสบการณ์การเทรดและความรู้สึกที่สำคัญด้วย

5. มั่นใจมากเกินไป

การทำการตลาดเกินจำเป็นถือเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงและบางนักเทรดมักจะรู้สึกพอใจกับกลยุทธ์การทำกำไรที่พวกเขาคิดค้นขึ้นมาเองเกินไป ทำให้เกิดความมั่นใจมากเกินไปในความสามารถของตนเอง แจ้งว่าการเทรดของเขาจะไม่พลาดเลย ความรู้สึกที่ดื้อรั้นของตนจะนำเขาไปสู่การขาดทุนครั้งใหญ่ นักเทรดที่มีกำไรจะมีความสามารถในการยอมรับความผิดพลาดของตนเองและพร้อมที่จะปรับปรุงเมื่อใดก็ได้

6. การเทรดที่ได้รับอิทธิพลจากอารมณ์

เราทุกคนมีจิตใจที่อ่อนไหวต่ออารมณ์ สำนวนของอเมริกากล่าวว่า “ทำงานเมื่อสติดี ทำอะไรเสี่ยงเมื่อมีความสับสน” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอารมณ์มีอิทธิพลต่อการทำงานอย่างมาก แต่นักเทรดต้องเรียนรู้วิธีการควบคุมไม่ให้อารมณ์ไปกระทบต่อการเทรดของตน

7. ขาดความสามารถในการสรุปและเรียนรู้

ตลาดเร่งรีบแปรปรวนอย่างมีนัยสำคัญ นักเทรดที่ไม่สามารถสรุปและเรียนรู้จะต้องถูกกำจัดออกจากตลาด ในการปฏิบัตินั้น การสรุปผลคือหลักการทองคำนำไปใช้ได้ในทุกเรื่อง ในการซื้อขายทองฟอเร็กซ์ก็เหมือนกัน ถ้านักเทรดไม่ศึกษาหรือสรุปผลจากประวัติการเคลื่อนไหวของตลาดที่ผ่านมาและผลการเทรดจะเปรียบเสมือนเรือที่ไม่มีการนำทางในทะเลอันกว้างใหญ่ที่หาทิศทางไม่เจอ นักเทรดจำเป็นต้องวิเคราะห์และสรุปผลการเทรดของตนเพื่อหาวิธีการเทรดที่เหมาะสมกับตน

8. ขาดการตระหนักรู้เกี่ยวกับตลาด

การเข้าซื้อขายฟอเร็กซ์และทองคำแบบธรรมดา ๆ ทำให้ผู้คนหลงลืมการเตรียมตัวและเข้าตลาดโดยไม่คิดใคร่ครวญ โอกาสคือของผู้ที่เตรียมตัวดี ก่อนการเข้าตลาดฟอเร็กซ์ นักเทรดมือใหม่จำเป็นต้องศึกษาและเตรียมความพร้อมให้ดีก่อน โดยต้องทดสอบแพลตฟอร์ม ศึกษาพื้นฐาน และวิเคราะห์แนวโน้ม

9. ขาดทักษะในการตัดสินใจ

ความลังเลในการสั่งซื้อเกิดจากความเชื่อมั่นที่ลดลงในช่วงเวลาที่ขาดทุน ความเชื่อมั่นที่ถูกทำลายเกินไปจะทำให้คนรู้สึกถึงความท้อแท้ทางจิตใจและทำให้มีความลังเลที่จะดำเนินการ พลาดโอกาสดีไป หากเห็นโอกาสแล้วต้องกล้าที่จะลงมือทำ

10. ตกใจเมื่อขาดทุน

การตัดสินใจทันทีและการรักษาความสงบเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับนักเทรด เมื่อเจอการทำกำไรในช่วงเวลาที่กำหนด การตัดสินใจว่าจะเพิ่มเงินลงทุนหรือยึดตามสิ่งที่เป็นอยู่จะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อการเทรดขาดทุน ก็เช่นกัน นักเทรดต้องรู้จักการตัดขาดทุนทันทีก่อน อย่างหมายความว่า การเทรดฟอเร็กซ์ทองคำเช่นเดียวกับการทำการค้าอื่น ๆ จำเป็นต้องใช้ความเยือกเย็นและสติปัญญา นอกจากนี้ยังเป็นการทดสอบความสามารถทางจิตใจของนักเทรดว่าเพียงรู้จักจุดอ่อนของผู้นั้นและเรียนรู้กลยุทธ์ในการทำกำไร จะทำให้เราสามารถยืนหยัดในตลาดฟอเร็กซ์ทองคำได้