การวิเคราะห์ราคาทางเทคนิค

การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ค้นพบราคาทางเทคนิคทั้งหมดไม่ได้บอกคุณเกี่ยวกับทิศทางของตลาด มีแต่ราคาในการซื้อขายเท่านั้น ไม่มีทิศทางที่แน่นอนขึ้นอยู่กับความเคลื่อนไหวของตลาด ตลาดแบกรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่หลายคนใช้เพื่อช่วยในการหาประเด็นซื้อขายที่เหมาะสม อีกทั้งมันมีความหมายซ้อนกัน 2 ชั้นคือ แง่มุมที่คนทั่วไปเข้าใจก็คือช่วยทำให้เทรดเดอร์ค้นหาพื้นที่ในการเทรดที่เหมาะสม

ราคาเทคนิคที่เกิดจากการวิเคราะห์

ส่วนความหมายที่สำคัญกว่านั้นคือ เนื่องจากนักลงทุนส่วนมากใช้อุปกรณ์การวิเคราะห์ทางเทคนิคในการเทรด ทำให้เกิดราคาทางเทคนิคขึ้นมา ราคานี้อาจมีความหมายเล็กน้อยในตลาด แต่กลับมีความหมายมากเมื่อทุกคนให้ความสนใจกับราคาเดียวกัน เนื่องจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคทำให้เกิดการคิดเชิงเส้นเกี่ยวกับราคา ทำให้ราคาทางเทคนิคมีความหมายที่ลึกซึ้ง

ความแตกต่างในการวิเคราะห์

วิธีการวิเคราะห์ทางเทคนิคมีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนก็ตาม ไม่ว่าจะใช้แนวทางใดก็ตาม เมื่อศึกษาลงไปในที่สุด ก็จะเห็นว่าราคาเทคนิคที่สำคัญนั้น ล้วนแล้วแต่มีแนวทางที่เหมือนกัน โดยเฉพาะราคาเทคนิคที่สำคัญที่สุด

การจัดการกับราคา

แม้ว่าวิธีการวิเคราะห์ของแต่ละกลุ่มอาจจะมีความแตกต่างกันในเรื่องการมองทิศทางขึ้นอยู่กับราคาก็ตาม และเพราะเหตุนี้จึงเกิดความผันผวนในตลาดได้ ดังนั้นนักสะสมส่วนใหญ่จึงมักจะใช้วิธีดันราคาในการสร้างผลกำไรให้กับตนเอง

มุมมองการเทรดที่ถูกต้อง

นักเทรดควรที่จะทิ้งมุมมองตลาดไปและไม่ควรพยายามคาดการณ์ตลาด เป้าหมายของการศึกษาราคาทางเทคนิคคือการค้นหาสถานที่จริงในการต่อสู้ของตลาด เมื่อพบกับระดับแนวรับก็ให้ทำการซื้อ เมื่อพบกับระดับแนวต้านก็ทำการขาย เมื่อแนวรับแตกก็ควรขาย และถ้าหากราคาทะลุแนวต้านก็ควรซื้อ โดยไม่จำเป็นต้องมีความคิดที่ยุ่งยาก เพราะตำแหน่งการเทรดส่วนใหญ่ที่เราสร้างในตลาดนั้น มักจะเป็นเฟรมหนังกำไรในตลาด มากกว่าที่จะเป็นมูลค่าของสินค้าโดยแท้จริง

มุมมองของนักลงทุนมืออาชีพ

มีเพียงนักลงทุนระยะยาวเช่น วอร์เรน บัฟเฟต ที่ถือว่าอยู่ในตลาดซื้อขายตามมูลค่าที่แท้จริง ถ้าคุณเป็นนักลงทุนประเภทนี้ คุณไม่จำเป็นต้องใช้ความสามารถในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเลย

ทัศนคติที่แท้จริงในการเทรด

เมื่อคุณพบราคาทางเทคนิคที่ถูกต้อง คุณจะเหมือนเป็นผู้ปรับเปลี่ยนในตลาด เราจะติดตามฝ่ายที่มีกำลังอย่างเดียวและไม่พยายามต้านทานฝ่ายที่แข็งแกร่ง โดยเมื่อเจอแรงกดดันให้เราขายไม่ว่าราคาจะต่ำเพียงใดเนื่องจากเมื่อมีแรงกดดันในตลาด จะทำให้แรงขายมีมากขึ้น ส่วนเมื่อทะลุแรงต้าน ราคาจะมีหลายข้อสูงขึ้น เพราะเมื่อมีการทะลุแรงต้านแล้ว แรงซื้อในตลาดย่อมมีมากขึ้น

แนวทางในการเผชิญหน้ากับตลาด

การเผชิญหน้ากับตลาดที่ซับซ้อนได้โดยการคิดในแบบที่บริสุทธิ์ที่สุด จะทำให้การซื้อขายของเราง่ายขึ้นและมีผลกำไร มากขึ้น โดยการมองที่ถูกต้องคือการเผชิญหน้ากับตลาดอย่างตรงไปตรงมาและไม่หยุดที่จะคิดในเชิงวัตถุประสงค์