การซื้อขายทางด้านซ้ายคืออะไร?

การซื้อขายทางด้านซ้าย หรือที่เรียกว่าการซื้อขายแบบย้อนกลับ (逆向交易)，ในกระบวนการปฏิบัติที่พบโดยทั่วไปคือ นักลงทุนส่วนใหญ่ในจีนจะใช้กฎการซื้อขายทางด้านซ้าย เมื่อพวกเขาเห็นราคาแตะจุดสูงสุดใหม่เท่านั้นที่พวกเขาเข้าใจว่าตลาดเริ่มต้นขึ้น จึงเริ่มไล่ตามราคา แต่หลายครั้งเมื่อไล่ตามไปถึงจุดสูงสุดระยะสั้นพวกเขากลับเลิกไป นี่คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้มีเพียงคนจำนวนส่วนน้อยเท่านั้นที่ทำกำไรในตลาดการเงิน

ซื้อขายทางด้านซ้ายในการลงไปที่ต่ำสุด

ในช่วงที่ตลาดเริ่มตกต่ำ โดยมีจุดต่ำสุดเป็นเกณฑ์ ทุกคนที่ซื้อสะสมในด้านซ้ายของ "จุดต่ำสุด" จะถือว่าทำการซื้อขายทางด้านซ้าย ขณะที่การซื้อขายในช่วงที่ราคายกตัวหลังจากจุดต่ำสุด ถือว่าเป็นการซื้อขายด้านขวา ทั้งสองอย่างล้วนเอื้อต่อการซื้อ แต่การซื้อขายทางด้านซ้ายเรียกว่าการ “ซื้อในจุดต่ำ” ขณะที่การซื้อขายในด้านขวาเรียกว่าการ “ไล่ตามราคาขึ้น” ซึ่งมักมีความหมายที่แตกต่างกัน

ซื้อขายทางด้านซ้ายในช่วงสูงสุด

ในช่วงที่ตลาดเริ่มปรับตัวขึ้น โดยมีจุดสูงสุดเป็นเกณฑ์ ผู้ที่ยังไม่ไปถึง "จุดสูงสุด" และขายในด้านซ้ายหรือทำการขายชอร์ต ถือว่าทำการซื้อขายทางด้านซ้าย ขณะที่การขายในช่วงที่ราคาลดลงหลังจาก "จุดสูงสุด" ถูกเรียกว่าการซื้อขายด้านขวา แม้ว่าทั้งสองจะมีการดำเนินการขาย แต่การขายในด้านซ้ายจะเรียกว่า “ขายที่จุดสูง” หรือ “ขายชอร์ต” ส่วนการขายในด้านขวาถูกเรียกว่า “ฆ่าราคาลง” ซึ่งมีความหมายที่แตกต่างกัน

วิธีการจำแนกการซื้อขายทางด้านซ้ายและด้านขวา?

การซื้อขายทางด้านซ้ายและด้านขวาไม่มีเกณฑ์ที่แน่นอนหรือมาตรฐานเดียว เพราะผลกระทบจากเฟรมเวลาแตกต่างกัน ทำให้มาตรฐานในการวิเคราะห์จุดสูงและจุดต่ำแตกต่างกัน ส่งผลให้ไม่สามารถจำกัดการซื้อขายทั้งสองด้านได้อย่างคาดการณ์ได้ ต้องการการตัดสินตามรูปแบบที่ชัดเจน ดังนั้น การตัดสินใจของนักลงทุนที่แตกต่างกันจึงส่งผลให้การตัดสินใจทั้งสองด้านมีความแตกต่างกัน ด้านล่างนี้เป็นสองมาตรฐานที่นิยมใช้ในการจำแนกการซื้อขายทางด้านซ้ายและทางด้านขวา เรียกว่ามีความเหมาะสมกับการอาศัยโอกาสแบบระยะกลางถึงระยะสั้น

เกณฑ์ที่หนึ่ง

ใช้แนวโน้มหลักในระยะเวลาหนึ่งเป็นมาตรฐานในการจำแนกการซื้อขายทางด้านซ้ายและขวา วิธีการเฉพาะคือ หากราคามีการเบรกแนวโน้มโดยใช้ราคาปิด เพื่อแสดงว่าสิ่งก่อนหน้านี้สิ้นสุดลง แนวโน้มใหม่อาจเกิดขึ้น ถ้าพิจารณาตามนี้ การดำเนินการในทิศทางตรงข้ามก่อนที่จะเกิดการเบรกถือว่ามีคุณสมบัติในรูปแบบการซื้อขายทางด้านซ้าย ขณะที่การดำเนินการตามแนวโน้มใหม่หลังจากการเบรกถือว่ามีคุณสมบัติในรูปแบบการซื้อขายทางด้านขวา

เกณฑ์ที่สอง

ในช่วงเวลาเฟรมที่กำหนด ใช้รูปแบบทางเทคนิคในการตรวจสอบว่าหัวหรือจุดต่ำสุดได้ถูกสร้างขึ้นแล้วหรือไม่ จากนั้นกำหนดการซื้อขายทางด้านซ้ายและขวา เมื่อรูปแบบการกลับตัวได้รับการยืนยัน นั่นคือเส้นแบ่งระหว่างการซื้อขายทางด้านซ้ายและทางด้านขวา