ความสำคัญของจิตวิทยาในการเทรดฟอเร็กซ์

เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดอนุพันธ์และตลาดหุ้น ตลาดฟอเร็กซ์เป็นตลาดที่สามารถสะท้อนหลักการ "โปร่งใส ยุติธรรม และเป็นธรรม" ได้ดีที่สุด การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานก็มีประสิทธิภาพอย่างสมเหตุสมผล ความสำเร็จในการทำกำไรในตลาดนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถและทัศนคติส่วนบุคคล จากประสบการณ์การทำงานใกล้เคียง 10 ปีในอุตสาหกรรมนี้ ก็รู้สึกว่าความสามารถเป็นเรื่องรอง ขณะที่ทัศนคติเป็นเรื่องหลัก ถ้าไม่ได้ใช้ทัศนคติที่ดี ความสามารถที่มีจะยิ่งทำให้ขาดทุนมากขึ้นไปอีก การพัฒนาทัศนคติในการเทรดที่ดีถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเอาชนะอุปสรรคทางจิตใจบางอย่าง

หลงใหลในความเชื่อที่ผิด

ตลาดมีความถูกต้องเสมอ ปัญหาคือนักเทรดเอง ช่วงปี 2000 ถึง 2004 สถานการณ์เศรษฐกิจในอเมริกาดีกว่ายูโรโซนอย่างเห็นได้ชัด แต่ค่าเงินดอลลาร์กลับลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี เมื่อคุณยอมรับการลดลงของค่าเงินดอลลาร์แล้ว ในปีนี้กลับพบว่าค่าเงินดอลลาร์กลับมาขึ้นอย่างผิดปกติ นั่นหมายความว่า ถ้าคุณไม่ตัดสินใจการเทรดตามสภาพตลาด ทิศทางตลาดก็จะกลายเป็น "ศัตรู" ของคุณเสมอ

การไม่กำหนดการขาดทุน

เมื่อเริ่มการเทรด ไม่มีใครอยากคิดถึงการขาดทุน สิ่งที่จะได้รับต้องเกิดจากการลงทุนจริง ๆ เช่นเดียวกับตลาดฟอเร็กซ์ หากคุณต้องการสร้างรายได้ คุณต้องคิดให้ดีว่า คุณสามารถรับความเสี่ยงได้เท่าไร การไม่กำหนดการขาดทุนจะทำให้คุณไม่สามารถตั้งจุดหยุดขาดทุนและจุดทำกำไรได้ สุดท้ายคุณก็ไม่สามารถทำกำไรได้ ซึ่งนี่คือทัศนคติที่ไม่ดีในการกลัวการขาดทุน ก่อนเข้าสู่ตลาด คุณควรกำหนดขอบเขตด้านล่างอย่างชัดเจน ถ้ากลัวการสูญเสีย คุณก็ไม่ควรเทรด

การลังเล

เมื่อสถานการณ์ไม่ถูกต้องควรปิดการเทรดทันที แต่หลายคนกลับไม่ทำอย่างนั้น และรอให้ราคาเข้าทางอย่างที่ต้องการ ตลาดไม่สามารถถูกตัดสินใจโดยเจตนาของบุคคล การได้กำไรกลายเป็นการขาดทุน ขาดทุนกลับเพิ่มขึ้น และสุดท้ายถึงจุดที่แก้ไขไม่ได้ สุดท้ายแล้วจะมานั่งเสียใจ ในหลายกรณี ตลาดจะไม่ให้โอกาสที่สองกับคุณ ความลังเลจะทำให้คุณพลาดโอกาสที่ดี

การเทรดแบบฆ่าตัวตาย

นี่เป็นอาการที่รุนแรงจากการลังเล เมื่อตัดสินผิดแล้วพลาดโอกาสการเข้าเทรดไป เมื่อคุณเชื่อว่าตัวเองตัดสินใจถูกต้องมาหลายครั้งแต่พลาดโอกาสการเข้าไป ความรู้สึกไม่พอใจและโกรธอาจทำให้คุณสูญเสียสติ จึงทำให้ความสามารถในการตัดสินใจลดลง แน่นอน! เวลาที่ราคาแสดงสัญญาณหัวที่ชัดเจน คุณกลับมองว่าเป็นการปรับฐานปกติ แล้วบุกเข้ามาอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง สุดท้ายก็จะถูกล็อคกับความเสียหาย

การเทรดแบบหลงใหล

นี่คือสถานการณ์ที่ตรงกันข้ามกับการเทรดแบบฆ่าตัวตาย หลังจากที่ตัดสินใจถูกต้องมาอย่างต่อเนื่อง การทำกำไรก็มักทำให้รู้สึกมั่นใจมาก ยิ่งมั่นใจมากขึ้นยิ่งทำให้ลืมมาตรการป้องกันความเสี่ยง ไม่ตั้งจุดหยุดขาดทุน และซื้อขายด้วยเงินจำนวนมาก เพียงแค่พลาดครั้งเดียว ตลาดจะไม่ให้โอกาสที่จะแก้ไข

การเปลี่ยนระบบการเทรดบ่อยเกินไป

ถ้าไม่มีประโยชน์เป็นพิเศษคุณก็ควรใช้ระบบการเทรดที่คุณถนัดอยู่แล้ว วันนี้สนใจตัวชี้วัดนี้ พรุ่งนี้ก็จะไปรักทฤษฎีโน้น สักครู่ก็เทรดตามสัญญาณนี้ สักพักก็เปลี่ยนไปตามสัญญาณนั้นไปเรื่อย ๆ ถ้าทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ คุณจะไม่มีทางเติบโตได้ในตลาดนี้ ตัวชี้วัดหรือทฤษฎีใด ๆ ไม่มีคุณค่าหรือข้อเสีย ขึ้นอยู่กับว่ามันเหมาะกับคุณหรือไม่ และควรจะง่ายเข้าไว้