ความสำคัญของการจัดการเงิน

ในการลงทุนจริง เรามักจะได้ยินนักลงทุนหลายคนบ่นว่าตนเองมักจะกำไรน้อยแต่ขาดทุนมาก แม้ว่าจะเรียนรู้เครื่องมือวิเคราะห์พื้นฐานและเทคนิคแล้วก็ยังไม่สามารถทำกำไรได้ สาเหตุหลักเกิดจากการจัดการเงินที่มีปัญหา เหมือนที่กล่าวไว้ใน "เส้นทางสู่ความเป็นอิสระทางการเงิน" การเทรดที่ดีมักจะไม่ดูที่เทคนิคเท่าไรนัก แต่จะดูที่การจัดการเงินและสภาพจิตใจ การจัดการเงินถือเป็นศิลปะในการป้องกัน โดยสามารถทำให้คุณมั่นคงก่อนแล้วจึงค่อยไปหาชัยชนะ

แบบจำลองการจัดการเงิน

แบบจำลองการจัดการเงินมีหลายประเภท รวมถึงการจัดการด้วยมือคงที่และมือยืดหยุ่น, เงินทุนคงที่, สัดส่วนความเสี่ยงคงที่, การจัดการเงินทุนตามการเปลี่ยนแปลงของราคา และอื่น ๆ บทความนี้จะมุ่งเน้นไปที่สามแบบจำลองที่นิยมที่สุด: แบบคงที่, แบบยืดหยุ่น และแบบสัดส่วนความเสี่ยงคงที่

แบบจำลองมือคงที่และมือยืดหยุ่น

แบบจำลองการจัดการตำแหน่งที่มีมือคงที่ถือว่าเป็นเครื่องมือที่ง่ายและเข้าใจได้ง่าย โดยมือคงที่หมายถึงจำนวนการซื้อขายที่ต้องคงที่ในแต่ละครั้ง กล่าวอีกนัยหนึ่ง คุณต้องกำหนดจำนวนการเปิดตำแหน่งไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าการเงินจะเป็นอย่างไรหรือยอดบัญชีจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง จำนวนการซื้อขายในแต่ละครั้งต้องเท่ากัน

การจัดการด้วยมือยืดหยุ่น

แบบมือยืดหยุ่นหมายถึงการคำนวณจำนวนการเปิดตำแหน่งตามยอดเงินทุนในบัญชี เมื่อยอดเงินในบัญชีเพิ่มขึ้น จำนวนการเปิดตำแหน่งก็จะมากขึ้น และในทางตรงกันข้าม เมื่อยอดเงินลดลง จำนวนการเปิดตำแหน่งก็จะลดลง ด้วยวิธีนี้จะช่วยให้การเงินไม่สูญหายอย่างรวดเร็วในช่วงที่ขาดทุนหนัก

สัดส่วนความเสี่ยงคงที่

แบบจำลองความเสี่ยงคงที่จะกำหนดสัดส่วนความเสี่ยงต่อการขาดทุนในแต่ละการเทรด เช่น ถ้ากำหนดสัดส่วนที่ 2% แสดงว่าอนุญาตให้ยอดเงินในบัญชีมีความเสี่ยง 2% ของการขาดทุนในแต่ละการซื้อขาย เป็นวิธีที่ผู้ค้าใช้กันอย่างแพร่หลายเพราะช่วยให้ความเสี่ยงที่ขาดทุนสูงสุดอยู่ในระดับควบคุมได้

ควบคุมมือหรือสัดส่วนความเสี่ยง?

โมเดลการจัดการเงินต่าง ๆ มีข้อดีข้อเสีย และไม่มีอะไรที่เป็นที่ดีที่สุดในทุกสถานการณ์ นอกจากนี้ยังมีข้อควรพิจารณาอื่น ๆ เพื่อหาว่าโมเดลใดเหมาะสมที่สุดสำหรับนักลงทุนแต่ละคน ได้แก่ ชนิดของนักลงทุน สภาพตลาด และกลยุทธ์การเทรด