การซื้อขายในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเมื่อใด

การตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้นเป็นสิ่งที่นักลงทุนมักพบว่ายากมาก เพราะการซื้อหรือการขายนั้นเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย เมื่อรวมกันทำให้การตัดสินใจที่ถูกต้องยากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าสามารถใช้ค่า RSI ในการช่วยในการตัดสินใจได้ โดยทั่วไปแล้ว ค่า RSI ที่สูงกว่า 80 และต่ำกว่า 20 จะถือว่าคือเขตเกินซื้อและเกินขาย

สถานะเกินซื้อ

1. เมื่อค่า RSI เกิน 80 จะบ่งบอกว่าตลาดมีแรงดันมากเกินไป โดยที่แรงซื้อมีมากกว่าแรงขายอย่างมาก การต่อสู้ระหว่างแรงซื้อและแรงขายไม่สมดุล แรงซื้อชนะอย่างเด็ดขาด ตลาดอยู่ในสถานะเกินซื้อ อาจมีแนวโน้มที่จะกลับตัว ดังนั้น ในเวลานั้น นักลงทุนสามารถขายได้

สถานะเกินขาย

2. เมื่อค่า RSI ต่ำกว่า 20 จะหมายความว่ามีการขายมากกว่าการซื้อ แรงขายมีมากกว่าแรงซื้อ หลังจากที่แรงขายรุนแรง ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอาจมีการลดลงอย่างมาก จนเข้าสู่สถานะเกินขาย ราคาหุ้นอาจเกิดการกลับตัวหรือเปลี่ยนแนวโน้ม นักลงทุนสามารถพิจารณาสร้างตำแหน่งซื้อได้

สถานะการจัดระเบียบของตลาด

3. เมื่อค่า RSI อยู่ที่ประมาณ 50 แสดงว่าตลาดอยู่ในสถานะการจัดระเบียบ นักลงทุนสามารถเฝ้าดูสถานการณ์ได้

การกำหนดเขตเกินซื้อและเกินขาย

4. การกำหนดเขตเกินซื้อและเกินขายในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้น นักลงทุนควรพิจารณาขึ้นอยู่กับสถานการณ์เฉพาะของตลาด โดยทั่วไปแล้ว ค่า RSI ที่สูงกว่า 80 จะถือว่าเป็นเขตเกินซื้อ และต่ำกว่า 20 จะถือว่าเป็นเขตเกินขาย อย่างไรก็ตาม อาจมีบางครั้งที่ในการขยับขึ้นและลงของตลาดพิเศษ การแบ่งเขตเกินซื้อและเกินขายของ RSI ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์เฉพาะ ตัวอย่างเช่น ในตลาดกระทิง หรือสำหรับหุ้นที่มีการเติบโตมาก เขตเกินซื้ออาจตั้งไว้ที่สูงกว่า 90 และในตลาดหมี หรือสำหรับหุ้นที่มีการลดลงมาก เขตเกินขายอาจตั้งไว้ที่ต่ำกว่า 10 (สำหรับจุดนี้อยู่ในบริบทของการตั้งค่าพารามิเตอร์ที่ต่ำ ค่า RSI จะยากที่จะถึง 90 หรือ 10 หากตั้งค่าพารามิเตอร์สูง)

การตัดสินใจในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา

การตัดสินใจในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศนั้นแทบจะเป็นเทคนิคที่ยากจะแน่นอน ในกระบวนการนี้ นักลงทุนควรสร้างระบบการซื้อขายที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อให้มั่นใจว่าทุกการซื้อขายมีข้อมูลอ้างอิง ที่ชัดเจนเกี่ยวกับว่าเมื่อใดควรซื้อและเมื่อใดควรขาย