การรวมกันของเครื่องมือ indicator ที่ดีที่สุด 5 อันในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

การระบุการรวมกันของเครื่องมือ indicator ที่ดีที่สุดในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศไม่เพียงแต่เป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้ได้สำหรับวัตถุประสงค์ต่างๆ ในบทความวันนี้ เราจะพูดถึงเครื่องมือ indicator อะไรบ้างที่ในความคิดของฉันคือเครื่องมือที่ดีที่สุดในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เครื่องมือ indicator ที่ดีที่สุดในเรื่องแนวโน้มมีลักษณะดังต่อไปนี้: 1. ใช้เครื่องมือที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มและโมเมนตัมรวมทั้งข้อมูลสนับสนุนและแนวต้าน 2. ใช้เครื่องมือที่มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน มูลค่าของเครื่องมือ indicator ใดๆ จะลดน้อยลงเมื่อใช้ในวัตถุประสงค์เดียวกัน ถ้าหากวาง EMA ที่มีความเร็วกลาง 2 ตัวพร้อมกับเครื่องมือ Ichimoku, ซึ่งหมายความว่ากำลังใช้เครื่องมือ indicator 2 ตัวเพื่อวัตถุประสงค์เดียว: การระบุแนวโน้ม 3. ใช้เครื่องมือ indicator ที่สนับสนุนกันและมีความหมายและคุณค่าแก่คุณ และทำให้กราฟชัดเจนและสามารถเข้าใจได้ ไม่ว่านักเทรดคนไหนจะพูดอะไร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเครื่องมือและ indicator ต้องมีความหมายต่อคุณ

1. ฟีโบนัชชิและเส้นแนวโน้ม

เครื่องมือฟีโบนัชชิที่กล่าวถึงถือว่ามีความหลากหลายสูง เนื่องจากมันสามารถใช้สำหรับการเข้าสู่ตลาด, ออกจากตลาด, ในเรื่องของแนวต้านและการสนับสนุน เครื่องมือฟีโบนัชชิคือสิ่งที่เหมาะสมที่สุดในการใช้ในตลาดที่มีแนวโน้ม มากกว่าตลาดที่อยู่ในภาวะผันผวน เส้นแนวโน้มจึงเป็นสิ่งสำคัญ เส้นแนวโน้มช่วยในการระบุแนวโน้มและช่วยนักเทรดหลีกเลี่ยงการใช้ฟีโบนัชชิในเวลาที่ไม่เหมาะสมในตลาดที่วุ่นวาย

2. ออสซั่ม ออสซิลเลเตอร์และเครื่องมือ Fractal

ออสซั่ม ออสซิลเลเตอร์ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์แนวโน้ม ฮิสโทแกรมและระยะห่างระหว่างเส้นศูนย์ชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของโมเมนตัมที่ขาดหายไป เครื่องมือ Fractal แสดงถึงการสนับสนุนและแนวต้าน มันมีการแสดงภาพที่รวดเร็วและสามารถช่วยชี้จุดการแตกในราคาขณะทำการเทรดพร้อมกับออสซั่ม ออสซิลเลเตอร์

3. ฟีโบนัชชิและเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

การรวมกันนี้มีลักษณะคล้ายกับการจับคู่ของฟีโบนัชชิและเส้นแนวโน้ม ความแตกต่างหลักคือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่จะถูกวาดอัตโนมัติบนกราฟ ในขณะที่เส้นแนวโน้มถูกวาดโดยนักเทรดเอง นอกจากนี้ เส้นแนวโน้มจะมีความคงที่มากกว่า เพราะว่า K-line ใหม่จะไม่เปลี่ยนแปลงมุมของมัน สุดท้ายเมื่อ indicator แสดงความราบเรียบ (ขาดแนวโน้ม) เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สามารถใช้ในการระบุการรวมกันได้โดยอ้อม

4. Indicator Parabolic SAR และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

Parabolic SAR เป็นวิธีในการระบุจุดที่อาจเกิดการเปลี่ยนแปลง ในขณะที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สามารถช่วยในการระบุแนวโน้ม โดยการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ร่วมกับ Parabolic SAR ทำให้นักเทรดสามารถเข้าสู่ตลาดเมื่อราคาได้ทำการปรับตัวและกำลังจะเกิดแนวโน้มใหม่ แต่ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดคือการย้อนกลับหรือการแตกลงปลอม

5. Indicator Divergence และเส้นแนวโน้ม

Indicator Divergence เช่น RSI และ MACD ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มและโมเมนตัม การไม่มี Divergence หมายความว่าแนวโน้มมีโมเมนตัมเพียงพอที่จะคงอยู่ เส้นแนวโน้มสามารถใช้ในการตัดสินแนวโน้มได้ กราฟที่มี Divergence หมายความว่าการเทรดแนวโน้มอาจเกิดการย้อนกลับขึ้น ความแตกต่างที่ใหญ่ขึ้นก็หมายถึงการเบี่ยงเบนที่มากขึ้น ทำให้มีโอกาสการย้อนกลับของแนวโน้มมากยิ่งขึ้น