การลงทุนฟอเร็กซ์

เมื่อเร็วๆ นี้เพื่อนที่ทำการเทรดฟอเร็กซ์มา 10 ปีได้แบ่งปันวิธีการทำฟอเร็กซ์ให้กับเรา เขาบอกว่าสิ่งที่พูดนั้นใกล้เคียงกับสิ่งที่ฉันเคยเรียนมา แต่ในใจของฉันมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงความคิดและมุมมอง และยังมีเพื่อนอีกคนที่พูดถึงสถานการณ์การลงทุนในหุ้นของเขา กลยุทธ์การเทรดของพวกเขามีความเรียบง่ายมาก แต่สำหรับผู้คนส่วนใหญ่แล้วมันกลับยากลำบาก ความจริงที่สำคัญคือความเรียบง่าย

การบริหารจัดการความเสี่ยง

เพื่อนที่ทำฟอเร็กซ์กล่าวว่า: 1. งานที่สำคัญที่สุดของฉันไม่ใช่การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน เพราะข้อมูลพื้นฐานเป็นข้อมูลที่เข้าถึงได้ง่ายและมีค่าจำกัด งานที่สำคัญที่สุดคือการบริหารเงินและการควบคุมความเสี่ยง เพราะการรักษาเงินต้นมีความสำคัญที่สุด ฟอเร็กซ์มีเลเวอเรจสูงและมีความเสี่ยงมาก; 2. ฉันใช้เวลาในตลาดมากกว่า 80% ของปีในการทำธุรกรรมแบบว่าง; 3. ฉันจะไม่โชว์ตำแหน่งที่เต็มพิกัด (การเทรดฟอเร็กซ์มีความเสี่ยงสูง); 4. เป้าหมายรายปีของฉันคือผลตอบแทนรวม 30%-100%.

แนวโน้มตลาด

มีแนวโน้มสามประเภท: ขาขึ้น ขาลง และเคลื่อนไหว sideways ฉันทำเฉพาะการลดลง ซึ่งฉันเชี่ยวชาญ เพราะการเพิ่มขึ้นนั้นต้องการปัจจัยหลายอย่าง โดยมักใช้เวลานาน แต่การลดลงมักไม่ต้องการเหตุผลมากนัก (เหตุการณ์ที่ตลาดหุ้นตกแบบล่าสุดก็เป็นต้น)

กลยุทธ์การเข้าออกตลาด

เมื่อใดก็ตามที่ฉันตัดสินใจเข้าตลาด ฉันจะต้องมั่นใจว่าความเสี่ยงและผลตอบแทนของการลงทุนต้องมากกว่า 1:9 ซึ่งหมายความว่าหากอาจสูญเสีย 1,000 บาท ในเงื่อนไขเดียวกันจะต้องมีโอกาสทำกำไร 9,000 บาท โอกาสที่มั่นใจที่สุดคือแนวโน้มที่เกิดขึ้นจริง

ทฤษฎีอสมการ

เพื่อนที่ทำฟอเร็กซ์ยังพูดถึงทฤษฎีอสมการ (Reflexivity) ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานของตลาดหุ้น ด้วยราคาที่ผันผวนรอบๆ คุณค่า ที่นาย Buffett กล่าวไว้ว่าต้องกลัวในช่วงเวลาที่คนอื่นตื่นเต้น และถึงแม้ว่าจะมีช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ เขากลับซื้อในจุดที่หุ้นถูกประเมินต่ำ

การเปลี่ยนแปลงในความคิด

1. ถ้าวันหนึ่งฉันสามารถทำกำไรได้อย่างสบายๆ และแน่นอนว่าฉันจะคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จ 2. ตั้งเป้าหมายในการทำกำไรให้สมเหตุสมผล 3. ไม่ตัดสินใจตามข่าวสาร แต่ดูแนวโน้มของตลาด 4. รักษาสถานการณ์ว่างไว้นาน เข้าเฉพาะโอกาสที่มั่นใจ 5. การบริหารจัดการเงินต้องมาเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงเป็นเทคนิค และสุดท้ายคือปัจจัยพื้นฐาน