การวิเคราะห์ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคในการซื้อขายทองคำ
ผู้เขียน:   2024-11-14   คลิ:1

การวิเคราะห์ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคในการซื้อขายทองคำ

การวิเคราะห์ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคคือการใช้สมการทางคณิตศาสตร์และสถิติบางประเภทเพื่อคำนวณตัวชี้วัดที่ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มราคา เครื่องมือวิเคราะห์สามารถปรับให้เข้ากับสภาวะตลาดที่แตกต่างกัน เพื่อช่วยนักลงทุนในการกำหนดกลยุทธ์การเข้าซื้อหรือขาย ตัวบ่งชี้การวิเคราะห์มีหลายประเภท ซึงในตลาดทองคำที่มักใช้กัน ได้แก่ เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (SMA), MACD, RSI, STC, Bollinger Bands และอัตราส่วนทองคำ การวิเคราะห์ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคในการซื้อขายทองคำ

เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย (Simple Moving Average, SMA)

เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่ายมีการประยุกต์ใช้ในตลาดทองคำอย่างเด่นชัด โดยพื้นฐานแล้วคือการคำนวณราคาปิดในช่วงวันที่กำหนด (เช่น 10 วัน, 20 วัน หรือ 50 วัน) ซึ่งคำนวณราคาเฉลี่ยในแต่ละวันและเชื่อมต่อผลลัพธ์เฉลี่ยให้กลายเป็นเส้นเฉลี่ยตามจำนวนวันที่ระบุ

ตัวอย่างเช่น การคำนวณเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วันคือการรวมราคาปิดในช่วง 10 วันที่ผ่านมา (รวมวันปัจจุบัน) แล้วหารด้วย 10 เพื่อให้ได้ราคาค่าเฉลี่ย จากนั้นนำราคาค่าดังกล่าวมารวมกันสร้างเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วัน เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่มีระยะเวลาสั้นจะมีความไวมากกว่าเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่มีระยะเวลายาว

การประยุกต์ใช้เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่

การประยุกต์ใช้เส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่มีอยู่สองรูปแบบหลัก

  • เมื่อราคาแทรกล้ำเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่ ให้ทำการซื้อขายตามแนวโน้ม
  • เมื่อเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่สองเส้น (ระยะสั้นและระยะยาว) ตัดกัน ที่จุดตัดให้ทำการซื้อขายตามแนวโน้ม

การวิเคราะห์ MACD (Moving Average Convergence - Divergence)

MACD เป็นตัวบ่งชี้โมเมนตัมแนวโน้ม ประกอบด้วย 2 เส้น เส้นแรกคือเส้น MACD ที่คำนวณจากความแตกต่างระหว่างเส้นเฉลี่ยเคลื่อนที่สองเส้น (EMA) ในการวิเคราะห์ทองคำ มักจะใช้ค่า 26 วันและ 12 วันเป็นค่ามาตรฐาน

เส้นที่สองคือเส้นสัญญาณ ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของ MACD โดยทั่วไปจะใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 9 วัน (EMA) เป็นเส้นสัญญาณ

การตีความ MACD

การตีความ MACD มีอยู่ 4 รูปแบบหลัก:

  • เมื่อราคาทะลุ "0" เส้น แสดงถึงการเคลื่อนไหวในทิศทางขึ้น
  • เมื่อ MACD อยู่เหนือ "0" เส้น และเส้น MACD ทะลุเส้นสัญญาณลง แสดงสัญญาณขาย
  • เมื่อ MACD ต่ำกว่าเส้นสัญญาณ แสดงถึงราคาต่ำเกินไป (Oversold)
  • เมื่อ MACD สูงกว่าเส้นสัญญาณ แสดงถึงราคาสูงเกินไป (Overbought)

ดัชนีความแข็งแรงสัมพัทธ์ (Relative Strength Index, RSI)

ในการวิเคราะห์ทองคำ นักลงทุนต้องเข้าใจบรรยากาศของตลาด ความแข็งแรงสัมพัทธ์ทำหน้าที่เหมือนดัชนีอารมณ์ของตลาด โดยจะเปรียบเทียบการเพิ่มขึ้นและการลดลงของราคาหุ้นในช่วงเวลาหนึ่ง

จุดกึ่งกลางของ RSI ที่ "50" เป็นเส้นแบ่งระหว่างขาขึ้นและขาลง

  • RSI ที่อยู่เหนือ 50 แสดงว่าเป็นขาขึ้น
  • RSI ที่อยู่ต่ำกว่า 50 แสดงว่าเป็นขาลง
  • เมื่อ RSI อยู่ที่ 70 ขึ้นไป แสดงถึงระดับ "Overbought"
  • เมื่อ RSI ต่ำกว่า 30 แสดงถึงระดับ "Oversold"

ดัชนี Stochastic (STC)

ดัชนี Stochastic ใช้วัดบรรยากาศของตลาด ประกอบด้วยเส้น K และ D เส้น K แสดงถึงราคาปิดที่มีการรวมตัวอยู่ในช่วงราคา ส่วนเส้น D คือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของ K

การประยุกต์ใช้ STC มีดังนี้:

  • เมื่อ K > 80 และ D > 70 ถือเป็น "Overbought"
  • เมื่อ K < 20 และ D < 30 ถือเป็น "Oversold"
  • K ขึ้นตัด D เป็นสัญญาณซื้อ
  • K ลงตัด D เป็นสัญญาณขาย

ช่อง Bollinger Bands

Bollinger Bands เป็นตัวบ่งชี้การเคลื่อนไหวของราคา โดยมีเส้นตรงกลางที่เป็นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 20 วัน และเส้นด้านบนและล่างวัดค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การขยายของช่องเกิดขึ้นเมื่อความผันผวนเพิ่มขึ้น การวิเคราะห์ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคในการซื้อขายทองคำ

อัตราส่วนทองคำ (Golden Ratio)

อัตราส่วนทองคำถูกค้นพบโดยนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี Leonardo Fibonacci ในศตวรรษที่ 12 มันถูกสร้างขึ้นจากการบวกเลขสองตัวก่อนหน้า เช่น 1, 2, 3, 5, 8, 13, 21, 34, 55, 89

อัตราส่วนทองคำใช้ในการวัดระดับการปรับตัวหรือการกลับตัวของราคา



ความคิดเห็นของผู้ใช้

ยังไม่มีความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

เปิดบัญชีกับ
โบรกเกอร์ Dupoin

สมัครสมาชิกกับเรา ผ่านโบรกเกอร์ Dupoin

**สิทธิพิเศษมีจำนวนจำกัด สำหรับสมาชิกเท่านั้น!!

เกี่ยวกับเรา

ติดต่อเรา

เรื่องที่น่ารู้

Crescentcollege คือเว็บไซต์ที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทุกความเคลื่อนไหวในตลาดเหล่านี้

เราไม่สนับสนุนการชักชวนให้เทรดหรือการระดมทุนในทุกรูปแบบ เรามุ่งมั่นเป็นเพียงสื่อกลางในการแบ่งปันความรู้ที่เป็นประโยชน์เท่านั้น

**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกประเภทมีความเสี่ยง นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรควรทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนก่อนการซื้อขาย**

ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ Crescentcollege สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้บนเว็บไซต์

ติดต่อทางอีเมล: [email protected]

ติดต่อเพิ่มเติมทาง Line:

blog

© 2024 Crescentcollege. สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามทำซ้ำ คัดลอก หรือเผยแพร่ข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต

เรานำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง โดยไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำการลงทุน