บทนำ

ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรามักถูกกล่าวว่าเป็นตลาดที่มีจิตวิญญาณของ "สามสาธารณะ" ซึ่งไม่เกินจริงเลย และปริมาณการซื้อขายมากกว่า 30 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวันยังแสดงให้เห็นถึงตำแหน่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในด้านการเงิน ดังนั้น ข้อห้ามที่ต้องระวังในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรามีอะไรบ้าง?

1. การลงทุนระยะยาว

ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรามีความแตกต่างอย่างชัดเจนจากตลาดอื่น ๆ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราเป็นตลาดเชิงสัมพันธ์ ซึ่งมีพื้นฐานเป็นเกมที่ไม่มีผู้ชนะ สิ่งนี้ทำให้ไม่เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว ข้อมูลคือหลักฐานที่ดีที่สุด ไม่ว่าคุณจะดูที่ 5 ปี หรือ 10 ปี หรือแม้แต่เวลาที่นานกว่า ไม่ว่าคุณจะเปลี่ยนสกุลเงินในช่วงเริ่มต้นอย่างไร หลังจากที่เวลาผ่านไปอันยาวนานแล้ว ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้มีเพียงสองอย่าง: อย่างแรกคือ สกุลเงินที่คุณเปลี่ยนเข้ามาเสื่อมค่า ซึ่งถือว่าเป็นการขาดทุนอย่างแท้จริง ขณะที่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นนั่นคือ แม้คุณจะซื้อสกุลเงินที่เพิ่มค่า แต่เมื่อคำนวณจากเวลา ผลตอบแทนจะเป็นเท่าไหร่? ยกตัวอย่างเช่น สกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์แคนาดา (CAD) ในช่วง 5 ปีและ 10 ปีที่ผ่านมา มีการเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพียง 10% และ 23% ซึ่งเท่ากับอัตราผลตอบแทนรวมต่อปีประมาณ 2% ต้องทราบว่านี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว ดังนั้นก่อนที่คุณจะเข้าตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา คุณต้องเข้าใจว่าตลาดนี้ไม่ใช่ตลาดแบบ “ซื้อเพื่อเก็บไว้ตลอดชีวิต” แบบของบัฟเฟต มันเป็นตลาดที่ต้องมีการซื้อขายอย่างขยันขันแข็งเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายการทำกำไร ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถปฏิเสธการเลือกเชิงยุทธศาสตร์ในระยะยาว (ไม่เกินหนึ่งปี) ได้เลย กล่าวคือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราเป็นตลาด “การซื้อขาย” ที่แท้จริง

2. การลงทุนแบบกระจาย

ตามเหตุผลเดียวกัน ทฤษฎีพอร์ตโฟลิโอของมาร์โควิตซ์ไม่สามารถนำมาใช้ได้กับตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา หากกล่าวว่า “อย่าใส่ไข่ทั้งหมดในตะกร้าใบเดียว” เป็นความจริงที่มีพื้นฐานทางทฤษฎีในตลาดอื่น ๆ โดยเฉพาะในตลาดทุน ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราความจริงนี้กลับกลายเป็นข้อผิดพลาด เพราะไม่เหมือนกับตลาดทุน สินทรัพย์การซื้อขายที่แตกต่างกันจะมีการเชื่อมโยงน้อยกว่าเนื่องจากความแตกต่างของอุตสาหกรรมและบุคคล แต่ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรามีลักษณะที่มี “เสมือนตัวยึด” (เช่น ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง) แทบทุกสกุลเงินจะมีการเคลื่อนไหวตามทิศทางที่สอดคล้องกับตัวยึดนี้ ซึ่งทำให้การสั่งซื้อในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรามักขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของตัวยึดในการตัดสินใจ เมื่อคุณคาดการณ์แนวโน้มของตัวยึดได้แล้ว การเลือกประเภทสินค้าจะกลายเป็นงานรองลงมา แน่นอนว่าหากในขั้นตอนที่สองคุณใช้กลยุทธ์การลงทุนที่กระจายเกินความจำเป็น จะทำให้คุณต้องใช้เวลาและพลังงานที่ไม่จำเป็นซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความแน่นอนในการตัดสินใจของขั้นตอนแรก กล่าวได้ว่าหากในพอร์ตสินทรัพย์สกุลเงินต่างประเทศมีดอลลาร์สหรัฐครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งถูกจัดสรรตามสัดส่วนดัชนีดอลลาร์สหรัฐ คุณจะโชคร้าย เพราะพอร์ตโฟลิโอของคุณอาจทำให้คุณอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่เอื้อต่อการชนะได้ง่าย

3. ความหลงเชื่อในผู้เชี่ยวชาญ

นักลงทุนใหม่หลายคนเมื่อดูการวิเคราะห์จากช่องทางต่าง ๆ มักมีความชื่นชอบในผู้เชี่ยวชาญบางคน แน่นอนว่ามีนักวิเคราะห์ Forex ที่มีความแม่นยำในการวิเคราะห์ตลาดที่ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะช่วยให้การซื้อขายของคุณมีประโยชน์จริง ๆ ยกหูว่า บทวิเคราะห์ส่วนใหญ่ขาดความทันเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดการค้าต้องการ และที่สำคัญคือ กลยุทธ์การซื้อขายส่วนใหญ่มักจะไม่ได้อยู่ในสถานะคงที่เสมอไป หากคุณแค่ฟังความเห็นของผู้เชี่ยวชาญในการซื้อเข้าครั้งครั้งเดียว แต่ไม่ใส่ใจในการทำกำไร การหยุดทำกำไร และการปรับกลยุทธ์เมื่อเกิดสถานการณ์ไม่คาดคิด ความเสี่ยงที่คุณต้องรับก็มีแนวโน้มที่จะได้รับผลเสีย ดังนั้นแทนที่จะติดตาม “ปลาที่ผู้เชี่ยวชาญเสนอ” แค่คุณเรียนรู้จาก “วิธีการตกปลา” ของผู้เชี่ยวชาญ เท่านี้ก็จะทำให้คุณเป็นผู้ชนะในกระบวนการซื้อขายที่ยาวนาน