ดัชนีการผลิต ISM

ดัชนีการผลิต ISM (Institute of Supply Management Manufacturing Index) เป็นข้อมูลที่สำคัญที่เผยแพร่โดยสมาคมการจัดการซัพพลายของสหรัฐอเมริกา (ISM) ดัชนีการผลิต ISM เป็นรายงานเศรษฐกิจรายเดือนครั้งแรกที่มุ่งเน้นไปที่ภาคการผลิต แบ่งออกเป็นดัชนีการผลิตและดัชนีที่ไม่ใช่การผลิต ซึ่งมีผลกระทบสำคัญต่อการสะท้อนสถานะความรุ่งเรืองของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับดัชนีการผลิต ISM

ความไวต่อการตลาด: สูงมาก ความหมาย: รายงานเศรษฐกิจรายเดือนครั้งแรกที่มุ่งเน้นไปที่ภาคการผลิต วันและเวลาที่เผยแพร่: เวลา 10:00 น. (ตามเวลาตะวันออกของสหรัฐฯ); เผยแพร่ในวันทำงานแรกหลังจากสิ้นสุดเดือนนั้น ความถี่: เดือนละครั้ง แหล่งที่มา: สมาคมการจัดการซัพพลายของสหรัฐอเมริกา (ISM). การปรับแก้ไข: ไม่มีการปรับแก้เดือน แต่มีการประเมินปัจจัยการปรับตามฤดูในเดือนมกราคมของทุกปี ซึ่งอาจทำให้ข้อมูลทั้งหมดมีการเปลี่ยนแปลง

ความสำคัญของดัชนีการผลิต

ดัชนีทางเศรษฐกิจนี้เป็นรายงานสถิติที่มีอิทธิพลมากที่สุดที่เผยแพร่โดยภาคเอกชน รายงานนี้มีอำนาจในการขับเคลื่อนตลาด และเผยแพร่โดยสมาคมการจัดการซัพพลาย (ISM) ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองแทมพี รัฐอาริโซน่า โดยเป็นองค์กรที่ตัวแทนผู้ซื้อต่อบริษัทในระดับชาติ ที่มีการรายงานสำคัญๆ 2 รายการในแต่ละเดือน โดยรายการแรกอิงจากการประเมินของผู้ซื้อต่อภาคการผลิต และรายการที่สองมาจากบุคคลที่เทียบเท่ากันในภาคการบริการหรือที่ไม่ใช่การผลิต รายงานการสำรวจภาคการผลิตจะได้รับความสนใจจากตลาดการเงินและสื่อมวลชนเป็นส่วนใหญ่ ผู้ซื้อต่อภาคการผลิตอยู่ในแนวหน้าของการตรวจสอบกิจกรรมการผลิต และการผลิตในภาคอุตสาหกรรมมีความไวสูงต่อการเปลี่ยนแปลงของกิจกรรมเศรษฐกรรมในวงกว้าง

ดัชนีการผลิต ISM และการวิเคราะห์

ISM ที่มีชื่อเสียงจากความทันท่วงทีของการเผยแพร่ผลการสำรวจในวันทำงานแรกของแต่ละเดือน โดยดัชนีนี้มีความหมายสำคัญต่อเศรษฐกิจ โดยสมาคมการจัดการซัพพลาย (ISM) เป็นองค์กรที่ใหญ่และมีชื่อเสียงในด้านการจัดการซัพพลาย การจัดการการผลิตและการจัดการโลจิสติกส์ ก่อตั้งเมื่อปี 1915 โดยมีสมาชิกมากกว่า 45,000 คน และ 179 สาขา เป็นหนึ่งในองค์กรที่มีชื่อเสียงที่สุดในสหรัฐอเมริกา

การวิเคราะห์และความหมายของตัวเลขจากดัชนีการผลิต ISM

ดัชนีการผลิตของ ISM อิงจากการสำรวจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับการผลิตในอนาคต การสั่งซื้อใหม่ สต็อก การจ้างงาน และการคาดการณ์การส่งมอบ แม้ว่าภาคการผลิตจะมีสัดส่วนเล็กน้อยใน GDP แต่ความผันผวนของภาคการผลิตมีผลสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของ GDP ทำให้การพัฒนาของภาคการผลิตมักจะนะนำการเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจในภาพรวม

ผลกระทบและผลการรายงาน

เมื่อมีการฟื้นตัวหลังการตกต่ำ ความต้องการผลผลิตในภาคการผลิตมักจะเพิ่มขึ้น โดยการเพิ่มขึ้นในดัชนี ISM อาจหมายความว่าเศรษฐกิจจะเปลี่ยนไปในทิศทางบวก ในทางกลับกันในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัว การสั่งซื้อและการผลิตในภาคการผลิตอาจชะลอตัวลงซึ่งบ่งบอกถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ

การวิเคราะห์การจ่ายราคาและการจ้างงาน

การสำรวจดัชนีการผลิต ISM ได้รับการพิจารณาในด้านความทันท่วงที นักวิเคราะห์กล่าวว่าในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจขยายตัวชะลอลง ดัชนี ISM จะกลายเป็นข้อมูลที่สำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนความผันผวนของตลาด ข้อโต้แย้งอยู่ที่ดัชนีราคาและการจ้างงาน ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและสถานะแรงงาน - เป็นสองตัวชี้วัดที่สำคัญที่สะท้อนความมีสุขภาพของเศรษฐกิจ

การประกาศตัวเลขจากดัชนีการผลิต

ข้อมูลจะถูกเปิดเผยในรูปแบบของดัชนีแบบกระจายในแต่ละหมวดหมู่ โดยคำนึงถึงเปอร์เซ็นต์ที่คาดหวังว่าจะ "เพิ่มขึ้น" ในแต่ละหมวดหมู่ (การผลิต การสั่งซื้อใหม่ ฯลฯ) โดยจะบวกเปอร์เซ็นต์ที่คาดว่าจะ "คงที่" ครึ่งหนึ่งและลบเปอร์เซ็นต์ที่คาดว่าจะ "ลดลง" สุดท้ายเก็บคะแนนรวมคือดัชนีการผลิต ISM หากค่าทั่วไปอยู่สูงกว่า 50 จะหมายถึงการเติบโต หากต่ำกว่า 50 จะหมายถึงการหดตัว

ผลกระทบของดัชนี ISM ต่อค่าเงินดอลลาร์

ประชาชนจะวิเคราะห์สัดส่วนของคำสั่งซื้อที่กระตือรือร้นและเพิ่มสัดส่วนที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงครึ่งหนึ่ง หากผลลัพธ์ตรงกับดัชนีที่สูงกว่า 50 จะหมายถึงการขยายตัวในภาคการผลิต; ต่ำกว่า 50% แสดงถึงการหดตัว; คะแนน 50 แสดงว่ามีการเปลี่ยนแปลง หากเศรษฐกิจโดยทั่วไปมีสุขภาพดีและเงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม ดัชนีการผลิต ISM ที่สูงกว่า 50 อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์พุ่งสูงขึ้น ในทางกลับกัน หากรายงาน ISM บ่งบอกถึงการหดตัวในภาคการผลิต นักลงทุนต่างชาติอาจลดการถือครองสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์ ทำให้ค่าของดอลลาร์ต่ำลงเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ